เรื่องรักคือมข้ามปี - เรื่องรักคือมข้ามปี นิยาย เรื่องรักคือมข้ามปี : Dek-D.com - Writer

    เรื่องรักคือมข้ามปี

    ถึงวันจะเปลี่ยน เดือนจะเคลื่อน ปีจะผ่าน แต่ความรักของเรา จะไม่มีวันจางหายไป

    ผู้เข้าชมรวม

    297

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    297

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  24 ก.ค. 52 / 02:09 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    เรื่องความรักของ ชายทั้งสองคน มันจะทะแม่งๆไปหน่อย แต่ก็อยากให้ลองอ่านดูกันนะ เขียนไม่เก่ง คำบางคำอาจจะผิด ขออภัยด้วยนะครับ
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      เรื่องสั้น   คืนข้ามปี

      29      ธันวาคม

      สายลมหนาวพัดผ่าน กิ่งไม้โน้มตัวโอนเอนตามกระแสลมนั้น กระดิ่งริมหน้าต่างแกว่งไปมาส่งเสียงดังกังวานใส ค่ำคืนนี้ดวงดาราระยิบระยับแสงจันทราสาดส่องสว่างไสวเมฆหมอกจางหายเปิดให้เห็นท้องฟ้ากว้างกระจ่างแจ่มแจ้ง   นภัสกร หรือ กร ชายหนุ่มวัยขึ้นรุ่นนั่งเล่นคอมฯอยู่ภายในห้องนอนเล็กๆของเขา  กรนั่งนึกถึงความหลังเมื่อครั้งยังเด็กในช่วงปีใหม่ที่บ้านของเขาจะคึกคักเพราะเนื่องจากจะมีการจัดงานบุญประจำปีชาวบ้านละแวกนั้นจะมาร่วมด้วยช่วยกันเสมอ ขณะที่กรกำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้น  ป้าพรหญิงวัยกลางคนที่อยู่บ้านใกล้ๆอยู่ๆก็ร้องเอะอะโวยวายขึ้น  กรจึงลุกเดินออกไปดูที่ริมหน้าต่าง

      มีอะหยางอุ๊ยพร ฮ้องโหวกเหวกลั่น

      งู มันเลื้อยเข้ามาเฮือนป้าเนี่ย  มาเวยๆมาตีกำเตื่อ

                      บ่เอาๆ กรส่ายหัว

                      ไหนว่าหลานป้ามาไงให้มาตีดิ

                      มันมาวันพูกวันฮืนพุ่น

                      งั้นก็ปล่อยมันไปเหอะป้า ถือว่าเอาบุญรับปีใหม่

                      เด๋วมันมาขบป้าหละจะว่าจะได

                      มันบ่ขบหรอกมันบ่มักหนังคนเฒ่า กรหัวเราะเยาะ ส่วนป้าพรเองแกก็ก้มลงไปหยิบฝาเบียร์ขว้างขึ้นมา  กรหลีบหลบแล้วโผล่มาหัวเราะชอบใจ

                      กร ๆ เสียแม่เรียกกรทำให้เขารีบเดินลงไปชั้นล่าง

                      มีอะไรแม่ กรมองดู แม่และย่าที่กำลังเอาถ้วยและจานออกมาเช็ดทำความสะอาด เพื่อเตรียมไว้ในวันงานทำบุญ

                      เรียกกรมีไรหรอแม่

                      มาเร็วๆมาช่วยแม่  เอาจานไปเช็ด แม่วางจานตรงหน้ากรแล้วส่งผ้าขี้ริ้วให้ กรหยิบผ้าขี้ริ้วขึ้นมาแล้วโยนเล่นไปมาจนลอยไปตกที่หน้าทีวี

                      โยนเล่นทำไม่ผ้ามันสกปก แม่เอามือไปหยิบผ้าขี้ริ้วผืนดำที่กรโยนไปไว้ที่หน้าทีวีมา

                      แม่ ไหงแม่ว่าผ้าผืนนี้มันสกปกหละ กรหันไปถามแม่

                      เอ้าไม่เห็นหรือไงผ้ามันดำขนาดนี้อะหรอ  ถามแปลก แม่มองกร

                      แม่แหละแปลก เอาผ้าขี้ริ้วสกปกมาเช็ดจาน แล้วจานมันจะสะอาดได้ยังไงหละ จบคำกรพูด ทั้งแม่และย่าต่างส่ายหัวกับมุกที่กรหยิบมาเล่นก่อนที่ย่าจะหันมาถามกร

                      ตะกี้นี้ยายพรเขาร้องอะไรดังโวยวาย

                       อ่อ งูมันเลื้อยเข้าบ้านป้าแกหนะ

                      งูอะไร แม่ถามอย่างตกใจ

       

                      คงจะเป็นงูสิงเหมือนอย่างเคยแหละ ย่าบอกให้สบายใจ

                      กลัวอะดี้ กรหันไปเย้าแม่

                      กลัวแต่พ่อแกแหละชอบไปเดินมืดด่ำเดี๋ยวจะไปเหยียบเอาเข้าแม่ว่าอย่างงั้ง

                      แล้วนี้ไอ้มิดหมีกับไอ้กิมันหายไปไหนหละ ย่าถามถึงสุนัขตัวโปรด

      โน่นอยู่ในครัวกับปู่โน่น แม่ว่า

      เอ่อย่า ป้าพรแกมีหลานด้วยหรอ กรถามด้วยความสงสัยเพราะตั้งแต่ที่กรจำความได้กรก็เห็นป้าพรอยู่คนเดียวมาตลอด จะมีก็แต่น้าชัย ลูกชายชองแกมาเยี่ยมบ้างเป็นครั้งคราว

      เอ้าก็ลูกของน้าชัยงัย จำไม่ได้หรอ ย่าว่า

      โถแม่ ตากรมันเคยเจอกับลูกพี่ชัยซะที่ไหนกันเล่า จะว่าไปเราเองก็แทบจะจำไม่ได้แล้วนะจำได้ว่าเคยพามาให้ดูตอนเด็ก นี่เมียเขาก็ไม่ยอมมาเอาแต่อยู่ทำงานที่ลำปาง

      แล้วเขาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายอะ

      ผู้ชาย แม่ก็จำชื่อไม่ได้ แล้วอยู่ๆถามทำไมเนี่ย

      เปล่าวว.ก็แค่อยากรู้ กรตอบปัดๆ สักครู่กรก็นึกขึ้นได้ว่าเขาเปิดเอ็มทิ้งไว้จึงรีบขึ้นไปดู

      ทันที่ที่ขึ้นไปถึงเสียง ตะลุงตุงลุ้ง ของเอ็มก็ดังขึ้น

                    (  Count Dooku  สุนทรียศาสตร์ความงามที่น้อยคนยากจะเข้าใจ says:     ดีกร ) เมลต้นทางทักขึ้น 

      (   สวัสดีปีใหม่ ขอหั้ยมีความสุขนะ says:     ดีบิ๊ก เป็นไง ไหนว่ากลับบ้านไง)  กรรู้สึกแปลกใจที่เจ้าของเมลนี้ออนเอ็ม

      (   Count Dooku  สุนทรียศาสตร์ความงามที่น้อยคนยากจะเข้าใจ says:      ก็กลับบ้านแหละ ตอนนี้ก็อยู่บนรถ เล่นในมือถือ) ตอนนี้ทำให้กรถึงบางอ้อเขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเจ้าของเมลถึงเล่นเอ็มได้

      (   Count Dooku  สุนทรียศาสตร์ความงามที่น้อยคนยากจะเข้าใจ says:     วันนี้ได้คุยกับปอนหรือยัง )หนุ่มเจ้าของเมลถามกรเรื่องปอน ชายหนุ่มที่เขาไม่รู้ว่าเป็นใครแต่พอจะเดาได้ว่าคนคนนี้ต้องมีความสำคัญกับกรมากแน่ๆ

      (   สวัสดีปีใหม่ ขอหั้ยมีความสุขนะsays:     ยังหรอก โทรศัพท์เขาก็ปิด บางทีโทรไปก็ไม่รับ เอ็มก็ไม่ออน) กรนั่งหน้าเศร้า  ชายหนุ่มเริ่มเห็นว่ากรเงียบไปนานเลยทักกรอีกครั้ง

      (   Count Dooku  สุนทรียศาสตร์ความงามที่น้อยคนยากจะเข้าใจ says:     กร๊ากๆ )

      (   สวัสดีปีใหม่ ขอหั้ยมีความสุขนะsays:     นายว่ากลับบ้านบ้านนายอยู่ไหนหรอ ) ยังไม่ทันที่ หนุ่มเจ้าของเมลกำลังจะตอบกลับ อยู่ๆไปก็ดับลงทำให้ทั้งคู่ขาดการติดต่อจากกัน

       

       

       

      ผ่านไปหลายชั่วโมงไฟก็ยังไม่ติด กรเดินกระวนกระวายไปมาจนแม่รำคาญจึงเดินมาถาม

      เป็นอะไรไป เดินงุ่นง่านเชียว แม่เวียนหัว

      ก็หนูคุยเอ็มกับเพื่อนค้างไว้อะ กรพูดอย่างอารมณ์เสีย

      เรื่องแค่นี้ มันจะตายป๊ะ พ่อชักทนไม่ไหวที่เห็นท่าทีเอาแต่ใจของลูกชาย กรงอนพ่อจึง

      เดินลงส้นเท้าขึ้นบ้านไป

      แสงโคมเทียนที่จุดวางไว้ที่ถนนหน้าบ้านกระพริบริบหรี่ตามกระแสลมที่พัดผ่าน  ถึงแม้แสงของมันจะไม่สว่างมากนักแต่แสงของดวงดาราที่ลอยอยู่บนท้องนภาก็สง่างกระจ่างแจ่มแจ้งสดใสทั่วผืนพิภพ ทำให้เห็นถึงเส้นถนนที่ทอดยาวออกไปข้างหน้าอย่างไม่รู้จุดหมายปลายทาง ซึ่งก็เปรียบได้กับชีวิตของคนที่ไม่มีใครได้ล่วงรู้ว่าวันข้างหน้าจะต้องประสพพบเจอกับสิ่งใดบ้าง  กรนั่งมองดูถนนเส้นนั้นอยู่ริมหน้าต่างแล้วคิดอะไรเพลินๆจนทำให้เขานั้นเพลอหลับไป

      เสียงไก่ขันทำให้กรตื่นจากห้วงแห่งนิทรา กรรู้สึกแปลกใจที่ตัวเองมานอนอยู่ที่หน้าต่าง หรือเป็นเพราะเมื่อคืนนี้เขาเพลอหลับไป  เช้านี้กรตื่นขึ้นมาด้วยความอ่อนเพลียกรลุกเดินจากริมหน้าต่างมายังที่เตียงเพื่อจะนอนต่อ แต่เขาก็เหลียวคิดได้ว่าถ้าเขาอยากจะหลับให้สบายเวลานี้เขาจะต้องเข้าห้องน้ำเตรียมพร้อมไว้ มีหลายครั้งที่กรยังฝันหวานไม่อยากจะตื่นแต่เขาก็ต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะเพราะเขาคนอั้นไม่ไหว ซึ่งบางทีมันก็ทำให้คนเราเสียมอารมณ์อย่างมาก   ขณะที่กรเดินลงมาเข้าห้องน้ำย่าที่ซึ่งเตรียมของที่จะใส่บาตรอยู่ก็ร้องเรียกกรให้ไปใส่บาตรด้วยกัน

      แหม วันนี้ฝนคงจะตก ตื่นเช้าได้ มาใส่บาตรกัน

      หนูปวดฉี่จะเข้าห้องน้ำ ย่าใส่เหอะเดี๋ยวกรจะขึ้นไปนอนต่อ มีนัดๆ กรรีบวิ่งเข้าห้องน้ำ ผ่านไปสักครู่กรก็ออกมาจากห้องน้ำด้วยสีหน้าที่มีความสุข  ป้าและปู่ที่กำลังสาละวนอยู่กับการจัดบ้านก็เข้ามาดึงกรไปช่วยจัดของ กรทำหน้าสะลึมสะลือเหมือนจะให้รู้ว่าตนเองยังไม่ตื่น ป้าเห็นดังนั้นก็รำคาญจึงไล่ขึ้นไปนอน

      ไปนอนไป ทำหน้าเหมือนลิงหลับ อ่อไปดึงปฏิทินตรงหัวกระไดด้วยนะ

      อันเนี้ยหรอ กรถามป้าพร้อมดึงปฏิทินออกมาทั้งอัน

      บอกให้ดึงออกมาแผ่นเดียวให้วันที่มันตรงกับวันนี้วันที่ 30 ไม่ใช่ให้ดึงมาหมด ตายๆ ป้าถอนใจเล็กน้อย ส่วนกรก็เอาปฏิทินไปติดไว้เหมือนเดิมคราวนี้มันติดไม่อยู่เสียแล้วเพราห่วงคล้องมันขาดกรพยายามติดเท่าไรก็ไม่ได้ ผ่านไปสักพักกรก็เหลืบไปเห็นหน้าตัวเองในกระจก

      เฮ้ยมาได้ไงอะ มาตั้งแต่เมื่อไหร่ กรตกใจเมื่อเห็นสิวหัวช้างขึ้นอยู่กลางหน้าผาก ทันทีทันใดกรก็เข้าไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง เขาหยิบเอาครีมทาหน้าราคาแพงของแม่มาทา

      สำอางจังเลยนะ พ่อแซวกร เขาอายหน้าแดงไม่ทันที่กรจะทาเสร็จเขาก็วิ่งขึ้นข้างบน  พ่อคิดว่ากรเขินจึงวิ่งหนี แต่เปล่าเลย ที่กรรีบวิ่งขึ้นไปเพราะเขารู้สึกเหมือนได้ยินเสียงงของโทรศัพท์ต่างหาก

      เมื่อกรขึ้นมาที่ห้องเขาก็ต้องพบแต่ความเงียบ ไม่มีเสียงโทรศัพท์อะไรนั้นเขาแต่หูแว่วไปเท่านั้น  กรเดินมาหยุดอยู่ที่ริมหน้าต่าง อากาศบริสุทธิ์ทำให้เขารู้สึกสดชื่นกระปี้กระเป่าไม่ง่วง หงาว หาวนอนเหมือนแต่เคย  กรยืนมองดูถนนที่มีแต่ความเงียบเหงานานๆจะมีรถสักคันที่วิ่งผ่าน  กรมองดูอยู่นานแล้วเขาก็ละสายตาออกมา ทันทีที่กรหันกลับเข้ามาในห้อง ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าบ้านของป้าพร เมื่อป้าพรเห็นแกก็รีบวิ่งตรงเข้าไปกอด ดูเหมือนว่าป้าพรจะดีใจที่ได้พบกับชายคนนั้นมาก ราวกลับว่าได้พบกับคนที่รักที่ไม่เคยได้เจอกันมานาน   กรหันกลับออกมาที่หน้าต่างอีกครั้งหนึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่ป้าพรและชายหนุ่มเดินเข้าบ้านไป  กรหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเวลาก่อนที่จะถอนหายใจเฮือกใหญ่ต้อนนี้กรกำลังตัดสินใจว่าเขาจะโทรไปหาปอน อดีตแฟนหนุ่มดีหรือไม่ และแล้วเขาก็เลือกที่จะวางโทรศัพท์ลงพร้อมกับถอนหายใจอีกครั้ง   ปอนคือชายหนุ่มที่กรรักมาก ซึ่งปอนกับกรนั้นเคยคบกันมาก่อนเมื่อตอนที่อยู่ปีหนึ่ง กรสังเกตได้ว่าปอนเริ่มออกห่างจากเขาเพราะว่าไปไปคบกับคนใหม่นั่นก็คือต้น เด็กหนุ่มเพื่อนชมรมด้วยกัน กรพยายามทำใจมาโดยตลอดแต่กรก็ยังตัดใจไม่ได้ทั้งหมด  กรมักจะดูถูกตัวเองว่าสาเหตุที่ปอนเลิกกับเขาเพราะเขาไม่ดีพอสำหรับปอน ทั้งหน้าตาและฐานะทางสังคม แต่จริงๆแล้วที่ปอนต้องเลิกคบกับกรก็เพราว่าความไม่พอของตัวปอนเอง

      ตกสายขณะที่กรกำลังนั่งดูรายการโทรทัศน์อยู่นั้นป้าพรก็ร้องเรียนแม่กับย่าที่นั่งอยู่หน้าบ้าน กรได้ยินจึงวิ่งออกไปดูเผื่อจะมีเรื่องอะไร

      มีอะไรกัน

      อ่อ ป้าพระแกพาหลานมาไหว้ แม่บอกพร้องกวักมือเรียกกรให้มาทำความรู้จักกับหลานป้าพร   เด็กหนุ่มหลานป้าพรยืนคุยอยู่กับย่าขณะที่กรเดินเข้าไปมา   ย่าเรียกกรให้เข้าไปใกล้ๆ ทำให้ชายหนุ่มทำให้ชายหนุ่มคนนั้นหันไปให้ความสนใจกับกร  เมื่อทั้งคู่เห็นหน้ากันกรก็ประหลาดใจเพราะหนุ่มที่เห็นคนนั้นก็คือ บิ๊ก เพื่อนทางเมลของเขา

      บิ๊กหรอ กรเอ่ยอย่างประหลาดใจ

      กร โลกมันกลมเนอะ บิ๊กพูดอย่างงงๆ เช่นเดียวกับกร

      นี่รู้จักกันด้วยหรอ ป้าพรถามบิ๊ก

      ครับ เคยคุยกันในเอ็ม  บิ๊กตอบ

      ใช่คนที่คุยค้างไว้เมื่อคืนหรอเปล่ากร แม่หันไปถามกรแล้วจึงหันกลับไปคุยกับบิ๊ก

      เมื่อคืนนะตากรงุ่นง่านซะ ไฟดับเล่นเอ็มไม่ได้

      มิหน้าหละครับบิ๊กก็งงอยู่ดีๆเอ็มของกรหลุดไป บิ๊กสังเกตเห็นสิวหัวช้างบนหน้าผากของกรก็อดหัวเราะไม่ได้ กรทั้งอายทั้งโกรธรีบเอามือปิดหน้าผากแล้ววิ่งเข้าบ้านไป   กรเข้ามานั่งดูทีวีอยู่ได้สักครู่หนึ่งแม่ก็เรียนกรอีก

      มีอะไรแม่ กรวิ่งออกมาดู

      ขี่รถไปส่งเจ้าบิ๊กเขาหน่อย เห็นว่าจะไปซื่อของที่ปากทาง

      มาถึงก็ใช้เลยนะ กรบนถึงบิ๊กกับตัวเอง

      เขาไปเองไม่ได้ไง หนูจะดูหนัง กรบ่ายเบี่ยงเพราะขี้เกียดไป

      ไปส่งเขาหน่อยลูก ปากทางมันไกล

      ก็ให้เขาเอารถไปดิ่

      เราขี่รถไม่เป็น บิ๊กที่ยืนอยู่ริมรั้วพูดแทรกขึ้น

      โตป่านนี้ขี่รถมอไซไม่เป็น กรบ่นพึมพำโดยที่ไม่รู้ว่าบิ๊กจะได้ยิน

      เราขับแต่รถเก๋งเป็นอะ ชายหนุ่มสกีนเฮดมาดเซอร์ตอบกลับมาพลางยิ้มที่มุมปากโชว์ให้เห็นถึงเล็กดัดฟันสีฟ้า

      โห รวยจริ๊ง รอแป๊บ ไปเอารถก่อน บิ๊กรอกรครู่หนึ่งกรก็ออกมาพร้อมรถเครื่องคันเก่าๆคันหนึ่ง แม่ส่งผ้ามาให้กรเช็ดรถ  บิ๊กเดินเข้ามาดูกรใกล้ๆ

      มองไร มันขับไปได้อยู่แล้วหน้า กรพูดอย่างกวนๆ กรเช็ดรถอยู่สักครูก็พร้อมที่จะออกเดินทาง

      อะขึ้นมา ไม่ต้องเกาะเอวนะ จั๊กจี๋ บิ๊กขึ้นซ้อนท้ายกรยังไม่ทันดีกรก็แกลงออกรถจน       บิ๊กเกือบตกรถแต่ดีที่บิ๊กมีสติดีจึงทรงตัวไว้ได้

      กวนหวะ ไม่เห็นเหมือนตอนคุยเอ็มเลย บิ๊กถาม

      แหมก็ตอนนั้นไม่เจอตัวเป็นๆนี่ก็เลยแกล้งไม่ได้  อันที่จริงแล้วเราเป็นคนดีนะ เรียบร้อย เหมือนผ้าพับไว้ เพราะพ่อแม่สอนมาดีเราต้องทำตัวให้สมกับชาติตระกูลที่มีมายาวนานตั้งแต่สมัยอยุธยาเป..

      พอๆ ขับไปยังไม่ทันกรจะพูดบรรยายสรรพคุณจบบิ๊กก็ตัดบท

      ชิ กรบ่น

      ตอนนี้เราก็รู้จักกันดีพอแล้ว นายจะให้เบอร์เราได้ยัง บิ๊กทวงเบอร์โทรศัพท์จากกร เพราะกรเคยให้สัญญาว่าจะให้เบอร์ตอนที่คุยในเอ็ม

      จะเอาไปทำไม

      เอาไปซื้อหวย บิ๊กแกลงแหย่

      ไม่ขำหวะ กรตอบแบบไม่รับมุข

      เราชอบคุยกับนายหละ เราว่านายคุยสนุกนะ

      คุยก็คุยดิ่ เราก็อยู่นี่ไง

      แล้วถ้าเรากลับหละ แล้วถ้าเอ็มมันเล่นไม่ได้อีกหละ  กรได้ยินก็นิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจบอกเบอร์โทรไป  บิ๊กรีบเอามือถือขึ้นมาเมมเบอร์ไว้

      เบอร์สวยนี่

      ไม่ต้องพูดมาก จะซื้ออะไรก็รีบซื้อ กรจอดรถที่หน้าร้านสะดวกซื้อแล้วไล่บิ๊กลง

      เอาอะไรไหม บิ๊กถามกรตามมารยาทที่พึงมี

      ไม่เอาอะ รีบๆไป จะกลับไปดูหนังต่อ กรพยายามไล่ให้บิ๊กไปซื้อของเร็วๆ   บิ๊กเข้าไปในร้านนานพอสมควรก่อนที่จะออกมาข้างนอก กรซึ่งยืนรออยู่ก็ทำสีหน้าไม่พอใจ

      จะเหมาทั้งร้านหรือไงหนะ กรว่าบิ๊กด้วยความโมโหที่ปล่อยให้รอนาน

      อะกินน้ำก่อน บิ๊กยื่นน้ำอัดลมให้ให้แต่กรไม่ยอมรับ

      บอกแล้วไงว่าไม่เอา ไม่หิว  รีบขึ้นดิ่จะไปดูหนังต่อ กรเดินไปที่รถเตรียมตัวจะกลับ แต่บิ๊กก็มายืนขวางไว้

      เดี๋ยวดิ่ เรายังไม่ได้ซื้อของอีกอย่างเลย

      เฮ้ย เรื่องมากหวะ จะเอาอะไรอีก กรชักหมดความอดทน

      เนี่ยหลือขนุนอ่อน บิ๊กส่งโพยให้กรดู เขาพยายามทำหน้าให้ดูหน้าสงสารเพื่อที่จะให้กรเห็นใจและหายโกรธ

      คงต้องไปตลาดแล้ว ขึ้นมาดิ่ กรเขยิบให้บิ๊กนั่ง

      ขอโทษ ที่พูดไม่ดี กรรู้สึกผิดที่ตะหวาดใส่บิ๊กจึงกล่าวขอโทษ ส่วนบิ๊กไม่ได้รู้สึกเคืองอะไรอยู่แล้วก็ทำเป็นเฉยๆ

      ไม่เป็นไรหรอ เราต่างหากที่ต้องขอโทษที่รบกวนนาย

      วันนี้ป้าพรแกงขนุนหรอ กรถามบิ๊กเพราะเห็นราการของที่ต้องซื้อ

      อืม ของโปรดเราเลยไม่ได้กินมานานแล้ว ตอนเรียนที่เชียงใหม่ก็ไม่ได้กินเลยคิดถึงฝีมือป้าแก

      เราก็ชอบกิน ป้าพรแกแกงมาให้บ่อยๆ  ไอ้นี่ก็ชอบนะ พริกอ่องหนะ

      วันนี้มากินข้าวบ้านเราไหม บิ๊กเอ่ยปากชวนกรให้ไปกินข้าวด้วยกัน

      จะดีหรอ เกรงใจ

      ไม่หรอก สนุกดีซะอีกกินหลายๆคน บิ๊กตื้ออยู่นานจนกรตอบตกลง   หลังจากที่กรพาบิ๊กมาซื้อขนุนอ่อนที่ตลาดเรียบร้อยแล้วกรก็รีบบึ่งรถกลับบ้านทันที

      เมื่อถึงบ้านบิ๊กก็ยังย้ำให้กรไปกินข้าเย็นให้ได้  กรก็ตบปากรับคำ ขณะที่กรจะเดินเข้าบ้านนั้น นพ  เพื่อนเก่าสมัยมัธยมของกรก็เดินเข้ามาทัก

      กร

      อ้าว นพกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ กรดีใจมากที่ได้เจอนพอีก

      เรากลับมาได้หลายวันแล้ว ตั้งใจจะมาหานายตั้งหลายวันแล้วเหมือนกันแต่มาไม่ได้

      เข้ามาในบ้านก่อนซิ่ กรชวนนพให้เขาไปคุยในบ้านแต่นพปฏิเสธ นพชวนกรให้ไปหาที่คุยที่อื่นโดยนพพากรไปที่หลังโรงเรียน

      ทำไมมาที่นี่หละ กรถามนพด้วยความสงสัย

      เราอยากนึกถึงความหลังหนะ นพย้อนนึกถึงเรื่องราวในอดีตตอนที่เขาอยู่ชั้นม.ปลาย ช่วงเวลานั้นเขามีความสุขมาก นพถือได้ว่าเป็นคนหน้าตาดีคนนึงซึ่งเป็นที่หมายปองของสาวๆยิ่งนพเป็นนักกีฬาตัวโรงเรียนด้วยแล้ว ก็ทำให้ไม่มีใครที่จะไม่รู้จักเขาแม้แต่เด็กสาวต่างโรงเรียนด้วยกัน  นพกับกรรู้จักกันมาตั้งแต่อนุบาลเมื่ออยู่มัธยมเขาก็เรียนโรงเรียนเดียวกันถึงว่าเพิ่งจะมาเรียนห้องเดียวกันในตอมม.ปลายก็ตาม ความเป็นเพื่อนของคนทั้งคู่ฝั่งรากแน่นถือได้ว่าเป็นเพื่อนที่ตายแทนกันได้เลยทีเดียว

      พูดถึงแล้วก็อยากกลับไปเป็นเด็กเนอะนพ ไม่ต้องคิดอะไรมาก เช้ามาก็ไปโรงเรียน เย็นมาก็เล่น ตกกลางคืนก็นอน

      ใช่ไม่ต้องมีเรื่องให้คิดมา..(ก)  นพยังพูดไม่ทันจบเขาก็ไอออกมา ตอนนี้กรเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของตัวนพ อาการซึมๆของนพดูออกได้ชัดเจน สีหน้าซีดเซียวเหมือนคนไม่สบายไร้ซึ่งเลือดไปหล่อเลี้ยง

      นพ แกเป็นอะไรวะ ไม่สบายหรอ  กรพยายามจะเอามือไปแตะที่หน้าผากนพแต่นพก็ถอยหนี

      อย่า ไม่ต้องเข้ามาใกล้ข้า

      เฮ้ย เป็นอะไร กรงงกับกริยาท่าทีของนพ   ตอนนี้นพตัวสั่นมีท่าทางเหมือนโกรธแค้นอะไรสักอย่าง

      ที่กูมาวันนี้กูจะมาลามึง

      แกจะไปไหนวะ กรไม่เข้าใจกับคำพูดและท่าทีของนพ

      มึงไม่ต้องรู้หรอกพูดจบนพก็เดินจากไป กรก็รีบวิ่งตามจนในที่สุดกรก็คว้าแขนของนพไว้

      แกเป็นอะไรวะ บอกมาดิ่ นพไม่ยอมตอบเอาแต่ยืนนิ่ง

      ไหนมึ่งว่ากูเป็นเพื่อนรักมึงไง ไอ้นพ กรตะคอกใส่นพจนนพทนไม่ไหวจึงบอกความจริงให้กรรู้

      กูเป็นเอดส์ มึงได้ยินไหมกรูเป็นเอดส์ กูกำลังจะตาย นพเขย่าแขนกรทั้งน้ำตา กรยืนอึ้งไปสักพักหนึ่งก่อนที่เขาจะร้องไห้ออกมา

      กรกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ที่รู้ว่าเขากำลังจะต้องเสียเพื่อนไปเพราะโรคร้าย นพที่ไม่ยอมบอกความจริงกับกรในตอนแรกเพราะกลัวว่าเพื่อนรักจะรังเกลียดและรับไม่ได้ แต่ตอนี้นพได้รู้แล้วว่าเพื่อนของเขาคิดอย่างไร  กรรู้สึกสงสารและเห็นใจนพมาก กรไม่รู้ว่าจะพูดอะไรนอกจากเดินเข้ามากอดนพแล้วร้องไห้ ถึงตอนนี้นพจึงตัดสอชินใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้กรฟัง นพเล่าว่าตอนที่เขาเรียนอยู่ปีหนึ่งช่วงเทอมสอง เขาได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่งเธอสวยมาก สวยกว่าดาวมหาลัยเสียอีก เพราะความงามของเธอจึงเป็นสาเหตุให้หนุ่มๆหลายคนเข้ามาติดพันธ์รวมทั้งนพด้วย  เธอคนนั้นมีชื่อเล่นว่าก้อย เป็นสาวเหนือจากเชียงของ เธอควงผู้ชายเป็นว่าเล่น คบผู้ชายไม่ซ้ำหน้าจนในที่สุด ก็มาถึงคิวของนพ นพบอกว่าแค่ควงไปกินข้าวครั้งแรกเธอก็ยอมที่จะมีอะไรด้วยซะแล้ว  ก้อยถือเป็นครั้งแรกของนพ เธอทำให้นพทุกอย่างและคล่องแคล่วจนนพรู้สึกประทับใจ ถึงแม้ว่าจะเป็นครั้งแรกแต่นพก็รู้จักที่จะป้องกัน เมื่อมีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สองและที่สาม ลีลาของเธอเริ่มเล่าร้อนมากขึ้น และแล้ววันที่ทำให้นพเสียใจที่สุดก็มาถึงขณะที่เขาและเธอกำลังเสพสังวาสกันอยู่นั้นชายหนุ่มที่นอนอยู่ไม่รู้เลยว่าสาวสวยที่ตนให้เธอขึ้นโยกไปมาบนร่างของเขานั้นกำลังที่จะปล่อยเชื้อร้ายเข้าสู่ร่างของเขา หญิงสาวเริ่มโยกแรงขึ้นจนชายหนุ่มทนกับความเสียวสวาทไม่ได้ถึงกลับหลับตาแล้วร้องครางออกมา หญิงสาวได้ทีรีบถอยเกราะป้องกันจากลึงค์ของชายหนุ่มออกแล้วสอดเข้าไปไว้เหมือนเดิม ชายหนุ่มที่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังตกเป็นเป็นเป้าหมายของการแก้แค้นของหญิงสาวอยู่ก็เพลิดเพลินไปกับโลกีย์สวาทอย่างเมามัน  หญิงสาวเริ่มโยกตัวแรงขึ้นอีกครั้งเนื้อกับเนื้อสีกันไปมาจนน้ำสีแดงสดไหลซิบๆ เพราะตันหาและแรงสวาททำให้ชายหนุ่มผู้โชคร้ายไม่สนใจตอนนี้เพียงหวังว่าให้เสร็จภารกิจในครั้งนี้ไปก่อนจะเกิดอะไรก็ไม่สน เมื่อสิ้นสุดแห่งกามกิจชายหนุ่มนอนแผ่หลาอยู่กลางที่นอนโดยที่หญิงสาวได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย  หลายชั่วโมงผ่านไปชายหนุ่มตื่นมาอย่างมึนงงและความเมื่อยล้าเขามองหาหญิงสาวที่เพิ่งจะได้เสพสวาทกันมาเมื่อครู่แต่ก็หาไม่พบ  สายตาของเขาเหลือบไปเห็นกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่งวางอยู่บนหัวเตียง  ไม่รอช้าหนุ่มผู้นั้นรีบเดินไปหยิบขึ้นมาอ่านทันที  ไม่ถึงนาที่ที่ได้อ่านข้อความในจดหมายชายหนุ่มก็เข่าอ่อนแทบล้มทั้งยืน กระดาษปลิวออกมาจากมือไปตกที่ข้างเตียง หนุ่มน้อยปล่อยโฮออกมามือหนึ่งก็กำหมัดด้วยความแค้นมือหนึ่งก็ทุบข้างฝาจนเป็นแผลแตกเลือดไหลซิบๆ  ข้อความในจดหมายนั้นมันช่างทำร้ายจิตใจของคนอ่านมากนัก  แต่สำหรับหญิงสาวผู้นั้นแล้วนี้มันเป็นการแก้แค้นที่เธอซะใจที่สุด เธอไม่คิดว่าคนที่เธอได้กระทำลงไปนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ แค่เธอกลับคิดว่าพวกผู้ชายเลวๆมันก็สมควรที่จะได้รับผลกรรมในครั้งนี้   ในจดหมายนั้นเขียนว่า ขอบคุณสำหรับเรื่องเมื่อคืนนี้ ที่คุณได้ทำให้ฉันได้แก้แค้นผู้ชายเลวๆอย่างพวกคุณที่ทำให้ฉันต้องเป็นโรคร้ายนี้ ถึงแม้จะเป็นเพียงข้อความที่สั้นๆเขียนเพียงไม่กี่บรรทัดแต่สำหรับใครที่ได้อ่านมันยากที่จะลบไปจากความทรงจำได้   สาเหตุที่ก้อยทำเช่นนี้เพราะเมื่อตอนที่เธออยู่ที่เชียงรายเธอเคยโดนพ่อเลี้ยงเธอและลูกชายของเขารุมข่มขืนแล้วเธอก็ได้รับเชื้อนี้มา เธอรู้ตัวว่าเธอได้รับเชื้อก็เพราะเธอได้ไปร่วมบริจาคเลือดแต่ผลเลือดของเธอเป็นบวกไม่สามารถให้บริจาคได้ เธอรู้ทันที่ว่าเธอได้รับเชื้อมาอย่างไร ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเธอก็แก้แค้นทุกคนที่เป็นผู้ชายทั้งเพื่อนที่เรียนด้วยกันในห้องและคนอื่นๆก็ตาม

       

      กลับมาที่กรหลังจากที่นพเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฝังกรก็เขยิบเข้ามานั่งใกล้ๆนพ เขากุมมือของนพไว้แล้วให้กำลังใจให้นพสู้ต่อไปอย่าท้อ

      แล้วพ่อแม่นายรู้หรือยัง

      รู้แล้ว เขาถึงไม่ให้ข้าออกไปไหนมาไหนไง เขาคงจะอาย นี่กว่าข้าจะแอบออกมาหาแกได้

      ไม่เป็นไรนะเว้ยเพื่อน มีเบอร์เรานิ่ วันหลังก็โทรมาหาเราได้

      แกไม่รังเกลียดข้าหรอ

      ไม่หรอก แกเป็นเพื่อนข้านี่ข้าจะรังเกลียดแกได้ไง  คนที่เป็นอย่างแกอะข้ารู้ว่าเขาต้องการกำลังใจ อย่าท้อนะโว้ยเพื่อน ข้าว่าแกคงจะอยู่ได้อีกหลายสิบปี  ถึงว่ากรจะพูดให้กำลังใจนพแค่ไหนแต่สีหน้าของนพก็ยังเศร้าหมองเหมือนเดิม

      ขอบในนะ เพื่อน ชาตินี้วาสนาข้าน้อยหวะสงสัยชาติก่อนทำบุญมาแค่นี้

      พูดอะไรอย่างงั้ยเล่า ข้าบอกแล้วไงว่าแกอะ ยังต้องอยู่อีกนาน ยมบาลท่านคงไม่อยากได้แกไปทำให้นรกของท่านต้องพินาศหรอก

      โหย ข้านี้มันตัวป่วนขนาดนั้นเลยหรอ ตอนนี้นพกลับมาสุกสนานได้อีกครั้งหนึ่ง แค่ความสุขมันก็อยู่ไม่นาน  พอสมควรแก่เวลานพจึงบอกลากร

      กร ข้าต้องไปแล้วหวะเพื่อน

      แกจะรีบไปไหนวะ

      ข้าต้องไปจัดกระเป๋า พรุ่งนี้พ่อข้าจะพาข้าไปที่ที่เหมาะกับข้า

      พระบาทน้ำพุอะหรอ  กรถามนพ น้ำเสียงของนพเริ่มอ่อยลง

      อืมใช่ เข้าคงจะไม่ได้กลับมาอีกแล้วแหละ แกดูแลตัวเองด้วยนะ เรื่องปอนหนะหักห้ามใจมั่งก็ได้ นพพูดพร้อมกับเอามือไปแกะตะขอสร้อยคอออก แล้วยื่นให้กร

      เก็บมันไว้นะ เป็นตัวแทนของข้าสร้อยเส้นนี้ข้ารักมากเลย กรหยิบสร้อยจากมือนพขึ้นมาดู  จี้ของสร้อยเส้นนี้มันดูแทบไม่ออกว่าเป็นรูปอะไรเพราะมันเก่ามาก กรเพ่งดูอยู่นานจนนพพูดขึ้น

      รูปมังกรไง 

      ตอนนี้กรจำได้แล้วว่าสิ่งนี้คือ พวงกุญแจรูปมังกรที่กรเคยให้นพเป็นของขวัญวันเกิดตอนที่เรียนอยู่ประถม นพชอบเรียกกรว่ามังกร จนชื่อนี้เป็นชื่อที่สองของกรไปเลย

      แกยังเก็บมันไว้อีกหรอ กรถามนพด้วยความตื้นตัน

      อืม ข้าเก็บติดตัวไว้ตลอดเลย

      ทำไมข้าไม่เคยเห็นว่ะ กรแปลกใจในคำพูดของนพ

      ที่แกไม่เห็นเพราะแกไม่สังเกตต่างหาก กรเริ่มหวนกลับไปคิดถึงความหลังเมื่อครั้งในอดีตที่ผ่านมาภาพของนพกับสร้อยเส้นนี้มันอยู่ด้วยกันเสมอ

      ใช่  แกพูดถูก ข้าไม่เคยสังเกตเลย

      จำคำเราไว้นะกร  ของบางสิ่งบางอย่างอะนะที่เราหามาทั้งชีวิต บางที่มันอาจจะอยู่ใกล้ตัวเราจนทำให้เรามองไม่เห็นมันเลยก็ได้ ยังมีอีกหลายเรื่องที่แกยังไม่เคยรู้เกี่ยวกับข้า กร

      มีอีกเหรอ  นพเงียบไปสักครู่หนึ่งแล้วจึงพูดต่อ

      ข้าเคยแอบชอบแก  ประโยคนี้ทำให้กรอึ้งไปสักครู่

      ล้อเล่นหน้า

      จริง นพย้ำคำเดิม

      บ้าแล้ว แกเป็นผู้ชายจะมาชอบเราได้ไงหละ นอกเสียจากแกจะเป็น...กรอ้ำอึ้งไม่กล้าพูดพลางมองไปที่ใบหน้าของนพที่ดูจริงจัง

      ไบ แกดูไม่ออกหรือไงวะ  กรเริ่มที่จะสนใจในคำพูดของนพ ในตอนนี้เขาเริ่มอยากรู้เกี่ยวกับนพมากขึ้น

      ตั้งแต่เมื่อไหร่วะที่แกชอบ เอ่อ ข้าหนะ

      แกยังจำเรื่องวันนั้นได้ไหม วันที่ข้าไปมีเรื่องกับพวกไอ้ยอดมาหนะ วันนั้นถ้าข้าไม่ได้แกมาช่วยไว้ป่านนี้ข้าคงจะไม่ได้มาอยู่ถึงทุกวันนี้  ภาพเมื่อครั้งอดีตผุดขึ้นมายังหัวสมองของกรเขาระลึกได้ถึงเหตุการณ์วันนั้น  ขณะที่กรกำลังเดินกลับบ้าน นพก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา แล้วก็มีพวกของไอ้ยอดวิ่งไล่ตมมาอยู่ติดๆ นพวิ่งมาแอบที่ข้างหลังกร ไม่รีรอกรยกมือกำหมัดตั้งกาดเตรียมสู้เต็มที่  ถึงแม้พวกของไอ้ยอดจะมีมากกว่าแต่กรก็ไม่กลัว เพียงหวังเพื่อที่จะช่วยเพื่อนได้เท่านั้น ด้วยความฉลาดและความกล้าของกร เขาจึงท้าไอ้ยอดให้ออกมาสู้ตัวต่อตัว ไอ้ยอดรับคำท้า ทั้งยอดและกรต่อยกันไม่ยั้งจนทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บไปตามๆกัน ไอ้ยอดยอมหย่าศึกเพราะกรเตะโดนน้องชายของไอ้ยอดเข้าเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้นพมีความรู้สึกดีกับกรมากขึ้น จากวันนั้นกรก็ได้สอนมวยให้นพทุกๆเย็นจนนพเข้มแข็งและสามารถป้องกันตัวเองได้

      ไม่น่าเชื่อเลยเนอะ ดูข้าตอนนี้สิ่ถ้าจะให้ไปต่อยไปตีกะใครคงแพ้เขาแน่ กรพูดกับนพ ส่วนนพเองก็เสียดายเวลา นพคิดว่าถ้าเขาตั้งใจเรียนไม่คิดที่จะออกนอกลู่นอกทาง ไม่ดื่มไม่เที่ยวเขาคงจะไม่ต้องอยู่ในสภาพแบบนี้

      ข้าต้องไปแล้วแหละ นี้ก็เย็นมากแล้ว

      โชคดีนะ เพื่อน

      บาย

      สิ้นคำกรและนพก็โผเข้าไปกอด น้ำตาแห่งความดีใจและเสียใจก็ไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองคู่ บรรยากาศยามเย็นมันช่างเป็นภาพที่หน้าหดหู่ใจยิ่งนัก แสงเจิดจ้าของดวงอาทิตย์ที่เหลือน้อยมันก็เปรียบเสมือนเวลาของนพที่สั้นลงๆไปเรื่อยๆ ไม่นานความมืดก็เขามาปกคลุมทั่วพื้นที่ กรเดินมาตามทางถนนที่ทอดยาวไม่รู้จบ เขาเดินมาเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน แม่ซึ่งยืนรอลูกชายอยู่หน้าบ้านเห็นลูกเดินกลับมาด้วยใบหน้าอันเศร้าสร้อยก็ร้องถาม

      กร ไปไหนมาลูก ทำไมทำหน้าอย่างนี้หละ

      แม่มีอะไรหรือครับ กรถาม

      บิ๊ก เขามาตามลูกไปกินข้าว 2  3รอบแล้ว กรเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีนัดกับบิ๊กไว้จึงรีบวิ่งไปหา  บิ๊กกับป้าพรกำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่โต๊ะ กรเห็นดังนั้นก็ค่อยๆย่องเข้าไป

      บ่ต้องมาเนียนเลย ไปไหนมา ป้าพรทักกร

      กรก็บ่ได้ไปไหนมาหนา เตวอยู่แถวนี้หละ

      มา มากิ๋นเข้าแลงกัน ป้าพรเรียกกรให้เข้าไป บิ๊กก็ลุกขึ้นจัดที่นั่งให้

      กรพูดคำเมืองเป็นด้วยหรอ บิ๊กถามอยางแปลกใจ

      ก็ได้มาจากป้าแกนี้แหละ

      มันว่ามันจะหัดไปพูดกับสาวเหนือสงสัยว่าจะหาแฟนคนเมืองเสียแล้วมั้ง ป้าพรแซวกร

      อย่างกรเนี่ยนะจะหาหญิง บิ๊กพูดอย่างรู้ทัน

      เงียบเลย กรตะหวาด

                      วันนี้แกงขนุนของป้าพรดูอร่อยเป็นพิเศษ  เพราะทั้งกรและบิ๊กดูจะเจริญอาหารทั้งคู่กินไปคุยไปจนป้าพรเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของคนทั้งคู่ แววตาของบิ๊กมันบอกอะไรกับป้าพรได้มากมาย การที่ลูกตาของคนเราจ้องมองแต่ใบหน้าของคนอีกคนแล้วดวงตาคู่นั้นมันหวานเยิ้มแสดงว่าเจ้าของดวงตาคู่นั้นคิดอะไรอยู่ 

                      ป้าขอตัวก่อนนะ  ป้าพรแกล้งทำทีเป็นจะออกไปเข้าห้องน้ำ แต่ที่จริงแล้วป้าพรต้องการจะไปแอบดูอยู่ไกลๆ  เมื่อป้าพรเดินออกไปสักพักบิ๊กก็เขยิบข้ำไปนั่งใกล้ๆกร บิ๊กนั่งลงตรงหน้าของกรแล้วกุมมือกรไว้ กรตกใจที่บิ๊กทำแบบนี้ กรจึงปัดมือออก

                      ทำอะไร

                      เปล่าแค่จับมือเฉยๆ มือนิ่มดีเนอะ บิ๊กกล่าวชมพร้อมกับเอามือขึ้นไปดม

                      หอมจัง บิ๊กมองหน้ากร ที่อายหน้าแดง

                      จะบ้าหรอ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า กรกลัวว่าจะมีใครเห็นโดยเฉพาะป้าพร   บิ๊กหัวเราะเบาๆ แล้วเอนตัวออกไปพิงพนักเก้าอี้

      พรุ่งนี้ไปเค้าดาวน์ที่ไหนหรอ บิ๊กเอ่ยปากถามกร

      ไม่ได้ไปที่ไหนหรอก เราก็อยู่บ้านทุกปีแหละ นั่งดูพลุอยู่ริมหน้าต่างเอา

      ไม่เหงาบ้างเหรอ อยู่คนเดียว

      ชินเสียแล้ว กรตอบเสียงเศร้า

      งั้นพรุ่งนี้ไปเที่ยวกับเราไหม บิ๊กลองชวนกรดู

      เราไม่ชอบที่คนเยอะๆอะ กรปฏิเสธคำชวนของบิ๊กเพราะเขานั้นไม่ชอบกับการที่ต้องไปอยู่กับฝูงชนจำนวนมาก

      งั้นก็ไปในที่ที่ไม่มีคนสิ่ บิ๊กยังตื้อให้กรไปกับเขาให้ได้

      ขอไปคิดดูก่อนแล้วกัน 

       

      ป้าพรซึ่งแอบฝังอยู่ไม่ห่างกันมากนักก็เดินถือถาดขนมเข้ามาโดยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น วันนี้ป้าพรทำสาคูเปียกของชอบของบิ๊กอีกอย่างหนึ่ง

      เอาๆกินข้าวแล้วมากินขนมต่อ

      โหวันนี้มีขนมด้วยหรอ กรร้องถาม

      ของชอบตาบิ๊กเขาแหละ ป้าพรตอบก่อน ถึงแม้ว่าป้าพรแกจะเป็นคนมีอายุแต่แกก็เปิดกว้างยอมรับกับเรื่องราวต่างๆได้ อีกประการหนึ่งป้าพรแกก็รักกรเปรียบกับลูกกับหลานถ้าบิ๊กกับกรจะคบกันก็ก็ไม่ขัดอะไร แต่จะทำอะไรก็ต้องให้อยู่ในกรอบ   หลังจากที่กรทานขนมแล้วก็ขอตัวกลับบ้านก่อนแต่ก็ไม่ลืมที่จะช่วยเก็บจานชามและทำความสะอาดโต๊ะ บิ๊กยังย้ำเรื่องที่เขาชวนกรไปเที่ยวในคืนวันพรุ่งนี้

      ไปเป็นเพื่อนตาบิ๊กหน่อยนะกร ป้าพรเดินมาตบบ่ากรเบาๆ

      อืม ดูก่อนแล้วกันครับ กรยังให้คำตอบอะไรไม่ได้ แต่เขาก็รับปากว่าถ้าไม่ติดอะไรก็จะมา ทำให้บิ๊กใจชื้นขึ้นเยอะ

      เมื่อกรกลับไปบิ๊กก็เข้าห้องไปอาบน้ำอาบท่าแล้วออกมาดูโทรทัศน์เหมือนอย่างเคย ป้าพรหลังจากที่ล้างจานเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้ามาหาบิ๊ก

      ชอบเขาหรือไง ป้าพรเดินเข้ามานั่งที่โซฟาข้างๆบิ๊ก

      อะไร บิ๊กเฉไฉไม่ตอบคำถามแต่ก็รู้ว่าคงเป็นเรื่องของเขากับกร

      จะอะไรซะอีกหละ ป้ารู้นะว่าบิ๊กคิดอะไรกับกร

      ป้ารู้หรอ บิ๊กตกใจทำหน้าซีด

      ป้าก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ กรเขาก็เป็นเด็กดีป้าก็ชอบเขา  บิ๊กนั้งฝังอยู่เงียบๆโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา  ป้าพรจึงพูดต่อ

      แล้วกรหละ เขาคิดยังไงกับลูก

      กรเขามีคนที่เขาชอบอยู่แล้วแหละป้า แต่คนที่กรชอบเขาไม่ชอบกร ถึงอย่างไรกรคงจะไม่ชอบบิ๊กหรอก  บิ๊กพูดด้วยเสียงอ่อยๆ

      เรื่องความรักความชอบเนี่ยมันบังคับกันไม่ได้หรอกนะ  คบแบบเพื่อนดูกรก็ได้นิ่ลูก ป้าพรพูดให้กำลังใจบิ๊ก

      ป้าไม่ว่าอะไรบิ๊กหรอที่บิ๊กชอบผู้ชาย

      เกย์ก็เป็นคนนะลูก แล้วอีกอย่างบิ๊กก็เป็นหลานของป้า คำตอบของป้าพรทำให้บิ๊กกลับมายิ้มได้อีกครั้ง เขาดีใจที่ป้าของเขารับได้แต่เขาก็ยังกังวลใจเรื่องของกรอยู่ดี

       

      ค่ำคืนนี้กระแสลมแรงกว่าปกติ  ม่านที่หน้าต่างห้องกรพัดกระพือปลิวไหวๆ  เศษกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะปลิวว่อน กรรีบวิ่งเข้ามาปิดหน้าต่างแล้วก้มเก็บกระดาษ งานนี้เล่นเอากรทั้งเหนื่อยหอบ  ครู่หนึ่งเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น กรดีใจเพราะคิดว่าเป็นปอนที่โทรหาเขา แต่กรก็ต้องพบกับความผิดหวังเพราะเบอร์นั้นไม่ใช่ของปอน เบอร์แปลกที่โทรเข้ามาทำให้กรตัดสินใจอยู่นานว่าจะรับหรือปล่อยไว้ดี  สักครู่เสียงโทรศัพท์ก็เงียบหายไปกรจึงวางมันไว้ที่หัวเตียง ยังไม่ทันที่เขาจะเดินออกมาโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นเบอร์ของนพที่โทรเข้ามากรจึงรีบรับทันที

      ฮัลโหล นพ ว่าไง

      กร ว่างอยู่หรือเปล่า

      ว่างมีไรหรอ

      ข้าเหงา พ่อขังข้าไว้ในห้องอีกแล้ว

      ขังหรอ กรตกใจในคำพูดของนพ

      เขารู้ว่าข้าหนีออกไปข้างนอกมา เขาเลยขังข้าไว้

      ไหนว่าพรุ่งนี้แกจะไปวัดพระบาทแล้วไง  ทำไมต้องขังอีกหละ กรแปลกใจอย่างมาก

      แกลืมไปแล้วหรือไงว่าวันนี้เป็นวันอะไร นพพูดให้กรระลึกถึงวันสำคัญวันนี้

      วันเกิดน้องนัน กรพูดออกมาเบาๆ

      วันนี้เขาจัดงานวันเกิดที่บ้าน พวกเขาคงไม่อยากให้ข้าลงไป เพรากลัวว่าจะทำให้เขาต้องขายหน้าหละมั้ง คงไม่มีพ่อแม่คนไหนหรอกที่อยากให้คนอื่นรู้ว่าลูกเป็น...

      แต่ก็ไม่หน้าจะต้องทำถึงขนาดนี้นิ่

      เอาเหอะๆ ว่าแต่แกอะกินข้าวยัง

      เรียบร้อย แกไปอยู่นู่นแล้วโทรหาข้าบ้างนะ

      ข้าว่าแกต้องโทรหาข้ามากกว่ามั้ง อย่าลืมว่าข้าไม่ได้สบายเหมือนอยู่ที่นี่นะ   เสียงแบตเตอร์รี่ของโทรศัพท์นพดังเตือนขึ้น

      เฮ้ย แบตข้าจะหมดหวะ แค่นี้ก่อนแล้วกัน นพบอกลากร

      อืม แกอย่าท้อนะเพื่อน ข้าจะเป็นกำลังใจให้  นพวางสายจากกรไปส่วนกรก็กลับมาซึมๆอีกครั้งหนึ่ง

       

      เสียงนาฬิกาจากชั้นล่างตีดังบอกเวลาเป็นเวลา 3 ทุ่มกรจึงเดินลงไปดูละครตามปกติ ยังไม่ทันที่กรจะก้าวลงบันไดเสียงแตรรถก็ดังขึ้นที่หน้าบ้าน  กรจึงรีบวิ่งลงไปดู ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นครูอรินครูสาวสวยที่โรงเรียนเก่าของกร

      ครู หวัดดีครับ  กรวิ่งเข้าไปสวัสดี

      พ่อครูอยู่ไหมจ๊ะ

      อ่อ ปู่อยู่ในบ้านครับเดี๋ยวตามให้ ปู่ของกร หรือพ่อครูที่ใครๆรู้จักคืออคีตครูดนตรีไทยที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย และในช่วงเทศการปีใหม่ บรรดาลูกศิษย์ก็จะนำของมาสวัสดีปีใหม่

      พ่อครู สวัสดีค่ะ ครูอรินเข้าไปไหว้

      เอ่อๆ มีอะไรรึมาซะมือค่ำ

      หนูเอาของมาให้ค่ะ สวัสดีปีใหม่นะค่ะครู ครูอรินหยิบกล่องรังนกหน้ารถมามอบแด่ครูผู้เป็นที่รักและเคารพ

      ไม่เห็นต้องเอาอะไรมาให้เลย เดี๋ยวนี้ก็เสร็จไอ้กรมัน ปู่พูดอย่างรู้ทันหลานรัก

      ปู่อะพูดงี้เดี๋ยวปีหน้าครูเค้าก็ไม่เอามาให้อีกหรอก

      นี่เรียนที่ไหนหละ ครูอรินหันมาถามกร

      เรียนที่ ม.บูรพาครับ ที่ชลบุรี กรตอบ

      เรียนเกี่ยวกับอะไร

      ก็ปรัชญาอะครับ

      อื่ม เรียนไหวหรอมันยากนะ ครูอรินถามอย่างสนใจ

      ไหวหรือไม่ไหวก็ต้องดูกันต่อไปหละครับ เลือกไปแล้วนี่ กรพูดติดตลก

      ครูไปแล้วนะ พ่อครูค่ะหนูลาหละค่ะ ครูอรินขอตัวกลับกรจึงเดินไปส่งครูอรินที่รถ

      ครูครับรู้เรื่องนพหรอยังครับ กรถามครูอริน

      ครูรู้แล้วหละจ๊ะ ครูอรินตอบทั้งคู่เงียบไปสักครู่หนึ่งก่อนที่ครูอรินจะเอ่ยขึ้น

      ถึงแม้ว่าครู่จะได้อยู่กับพวกเธอได้แต่สองปีอะนะแต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาครูรู้สึกว่ามันผูกพันแน่นแฟ้นกันมากเลย ครูเสียใจที่นพต้องพบกับจุดจบแบบนั้น แล้วนี่เธอเจอยาริดาหรือยัง ครูอรินเอ่ยถามกร

      ยาริดา อ่อยัยยา ทำไมหรอครับ กรถามครูอรินด้วยความสงสัย

      วันก่อนเขามาที่โรงเรียนเห็นว่าเพิ่งกลับมาจากเชียงใหม่ เขาเรียนไม่มช.ก็แม่โจ้เนี่ยแหละเห็นเขาว่านะ

      โหนี่ครูยังจำชื่อจริงเขาได้อีกหรอครับ เอ่หรือเป็นเพราะมันเข้าห้องปกครองบ่อยจนครูจำได้

      ไม่มีครูคนไหนลืมลูกศิษย์ได้หรอกจะ ถึงพวกเขาจะดีหรือเลวแค่ไหนแต่พวกเขาก็คือศิษย์ของครูนะ ครูอรินพูดอย่างภาคภูมิใจก่อนที่จะขี่รถออกไปตามทาง

       

      แล้วนี้ก็ผ่านพ้นไปเรื่องราวต่างๆนาๆที่กรได้พบเจอมาในวันนี้มันจะเป็นบทเรียนชีวิตที่ดีสำหรับเขา และแล้ววันสิ้นปีก็มาถึง เช้ามืดของวันนี้ดูอากาศจะเย็นลงมามากจนน้ำค้างที่เกาะบนปลายไม้ร่วงหล่นลงกระทบหลังคาดังราวกับห่าฝนเม็ดใหญ่ พอฟ้าเริ่มสางเหล่าวิหกนกกาก็บินออกหากิน ย่ารีบตื่นขึ้นมาทำกับข้าวใส่บาตรส่วนพ่อก็ออกวิ่งพาเจ้ามิดหมีไปออกกำลังกาย เจ้าโกกิสุนัข อาวุโส ก็ขอนอนเฝ้าปู่อยู่ใต้เตียง แม่และป้าก็พากันเดินไปตลาดเช้าโดยมีป้าพรตามไปด้วยสำหรับกรก็ได้แต่นอนฝันหวานอยู่บนบ้าน  พอฟ้าแจ้งมีแดดหน่อยๆพระก็มาถึงย่ารีบนนิมนต์ พระคุณเจ้ารับบาตรเสร็จก็ให้พร ย่ารีบนั่งลงรับ อายุ วรรโณ สุขัง พลัง คือมงคลแรกของเช้านี้ สิ้นเสียงสวดตามาด้วยเสียง สาธุ ด้วยความยินดี  เช้านี้อากาศเย็นลงถึง 20 องศา ต่ำกว่าตั้งแอร์ประหยัดไฟเสียอีก ปู่จึงก่อไฟที่สนามหญ้าหน้าบ้านเพื่อที่จะได้นั่งผิงไฟ

      หลังจากที่ป้าพรกลับมาจากตลาดและทำภาระเรียบร้อยแล้วแกก็ได้เดินออกมาเที่ยวนอกบ้าน จุดหมายของแกก็คือบ้านของกร ทุกเช้าแกจะชอบมานั่งคุยกับย่าที่ศาลาไม้ใต้ต้นมะม่วงในเรื่องต่างๆนาๆ ยิ่งเป็นเรื่องของชาวบ้านแกจะสันทัศเป็นพิเศษ  วันนี้ย่าชวนแกคุยเรื่องอากาศย่าบอกว่าวันนี้อากาศหนาวยังกับอยู่ที่เชียงใหม่ แต่ป้าพรแกว่าหนาวเหมือนที่ลำปางบ้านของแก ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้ลำปางกับเชียงใหม่นี่มันจะหนาวต่างกันสักกี่องศาเชียว ป้าพรแก่พูดคุยอยู่ได้สักระยะหนึ่งก็ก็นึกขึ้นได้ว่าแกยังไม่ได้ทำอะไรอีกอย่างหนึ่งแกจึงขอตัวกลับบ้านก่อน   ป้าพรกลับมาถึงบ้านก็ตงมาที่กล่องกระดาษใบใหญ่ที่วางอยู่บนโต๊ะ แกเปิดกล่องออกมา ในนั้นมีตุงใยอยู่หลายผืนและข้างๆกันก็มีโคมยี่เป็งอยู่หลายลูกเช่นกัน แกหยิบตุงออกมาคลี่ดูแล้วหยิบมาแขวนที่หน้าจั่วบ้าน ตุงบางผืนแกเอามาปักไว้ที่รั้วบ้านดูแล้วสวยแปลกตาดี ไม่นานแกก็แขวนเสร็จ ทีนี้เหลือแต่โคมเท่านั้น ป้าพรแกรีบไปปลุกบิ๊กที่หลับอยู่ให้ตื่นขึ้นมาช่วยแก  บิ๊กงัวเงียครึ่งหลับครึ่งตื่นก็เดินขยี่ตาออกมาช่วย

      เอาแขวนตรงไหนหละ บิ๊กถามไปหาวไป ป้าพรแกก็ชี้ไปชี้มาอยู่หลายที่ แกยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอาตรงไหนดี บิ๊กจึงขอตัวไปนอนต่อถ้าป้าแกเลือกได้แล้วให้ไปตามด้วย  หลังจากที่ใช้หลานรักไม่ได้แล้วแกจึงตัดสินใจที่จะขึ้นไปแขวนเอง ป้าพรมือแกเผลอไปโดนแจกันที่แขวนอยู่ที่ต้นเสาเข้าทำให้มันหล่งลงมาแตก เสียงแตกของแจกันทำให้บิ๊กสะดุ้งตื่น เขารีบวิ่งออกมาโดยไม่ทันระวังจนไปเหยียบเศษกระเบื้องเลือดอาบเต็มฝ่าเท้า  ทันทีที่ป้าพรเห็นเลือดก็เป็นลมล้มพับไป บิ๊ก รีบเอาผ้าอาพันแผลห้ามเลือดไว้ก่อนที่จะเดินเขย่งๆไปหาพลาสเตอร์  บิ๊กเอามือควานหาในลิ้นชักเท่าไรก็หาไม่เจอทั้งในกล่องยาและตู้เก็บของ เลือดยังไหลไม่หยุดจนผ้าที่พันไว้กลายเป็นสีแดง บิ๊ก จึงตัดสินใจโทรไปหากรให้เอาพลาสเตอร์มาให้

      เป็นไงบ้างบิ๊ก กรวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาพร้อมกับกล่องพยาบาล  บิ๊กรีบเอาแผลให้ดู กรตกใจที่เห็นแพลเพราะมันใหญ่กว่าที่พลาสเตอร์จะปิดได้

      โหเราว่าต้องใช้ผ้าก๊อตแล้วแหละ กรรีบพาบิ๊กไปล้างแผล กรค่อยๆทำความสะอาดอย่างนิ่มนวนเพื่อบิ๊กจะได้ไม่เจ็บ

      เดี๋ยวต้องใส่ยาน้ำเดือดนะ ทนแสบหน่อยแล้วกัน กรค่อยๆเทยาล้างแผลลงไป ขณะที่บิ๊กทนแสบแผลไม่ไหวก็บีบแขนกรไว้แน่นจนเป็นรอยเขียวช้ำ  ป้าพรที่ได้สติแล้วก็เข้ามาช่วยอีกแรง

      เป็นไงบ้างลูก ป้าพรถามบิ๊กด้วยความเป็นห่วง

      เจ็บดิ่ ดีนะได้กรไม่งั้นเลือดหมดตัวตาย

      พูดมาก  ถือไว้ กรส่งขวดยาให้บิ๊กแล้วค่อยๆพันแผลด้วยผ้าก๊อตอย่างเบามือ  บิ๊กมองหน้ากรแล้วยิ้มกรุ่มกริ่มเล็กน้อยส่วนกรที่เหลือบเห็นบิ๊กยิ้มให้ก็แกลงบีบที่แผลจนบิ๊กร้องออกมา

      จะแกลงให้เราตายหรือไง

      แค่นี้มันไม่ตายหรอก กรว่า บิ๊กกำลังจะอ้าบากพูดกรก็สวนขึ้นมาทันที

      ไม่ต้องพูด เหม็นขี้ฟัง คำพูดนี้ทำให้บิ๊กสงบเสงียมลงทันที

      แล้วนี่จะอาบน้ำยังไงหละเนี่ยขาก็โดนน้ำไม่ได้ ป้าพรพูดเป็นห่วงบิ๊ก

      ไม่อาบ บิ๊กพูดออกมา

      ซ๊กม๊ก ป้าพรว่า

      ก็คงต้องเช็ดตัวแหละ กรว่า

      งั้นป้าฝากกรด้วยแล้วกันนะ ไม่ทันที่กรจะพูดขัดป้าพรกรเดินออกไปเสียแล้ว  เป็นที่ของบิ๊กที่ป้าพรได้เปิดโอกาสให้เขาได้อยู่กันสองต่อสอง บิ๊กยิ้มอย่างมีเล่ห์นัย

      ไม่ต้องมายิ้มเลย แค่ขาเจ็บไม่ใช่หรอ มือไม่ได้เป็นอะไรนี่ กรพูดอย่างตัดโอกาส

      แหมไหนๆช่วยมาถึงขนาดนี้แล้วก็ทำมันให้ถึงที่สุดดิ่ ไม่รีรอบิ๊กรีบถอดเสื้อออก ร่างกายกำยำของบิ๊กถูกเปิดเผยขึ้น กล้ามเนื้อที่ดูแน่นและแข็งแรงช่างสมเป็นชายชาติบุรุษ ความขาวของผิวพรรณทำให้เห็นถึงความสะอาดในตัว

      สะดือจุ่น กรร้องเสียงดังและหัวเราะออกมา

      เป็นอะไรมากป๊ะ ไม่เคยเห็นหรือไง บิ๊กพูดอย่างเคืองๆ

      มันแปลกอะ กรยังตลกไม่หาย บิ๊กทนไม่ไหวจึงแกลงถอดเสื้อกรบ้าง

      ไหนดูสิ่ว่าจุ่นหรือเปล่า บิ๊กถอดเสื้อของกรอย่างเร็วจนเจ้าตัวตั้งตัวไม่ทัน  ผิวขาวเนียนของกรเผยให้เห็นออกมา หัวนมสีชมพูก็เต่งตึงทั้งขนหลังและขนแขนก็ลุกเกรียวเพราะความเขินและความหนาวเย็นของอากาศ ร่างกายของกรดูเล็กและบอบบางกว่าของบิ๊กรวมทั้งผิวยังขาวกว่า   บิ๊กอีกด้วย  บิ๊กโยนเสื้อของกรทิ้งลงตะกร้าผ้าอย่างแม่นยำก่อนที่เขาจะแกลงจี๋เอวกร ตอนนี้ทั้งบิ๊กและกรต่างก็มีแค่บล็อกเซอร์กันคนละตัวทั้งคู่วิ่งเล่นหยอกล้อกันในห้องจนบิ๊กลืมเรื่องแผลไปโดยปริยาย ตอนนี้บิ๊กมองกรด้วยท่าทีแปลกๆเขาเริ่มที่จะเกิดปฏิกิริยาบางอย่างกับร่างกายของกร บิ๊กเดินตรงไปที่กรแล้วใช้ปากดูดลงมาที่ซอกคอ กรพยายามดันตัวบิ๊กออกแต่สู้แรงบิ๊กไม่ได้เพราะตัวใหญ่กว่า  บิ๊กดันตัวกรให้ไปติดกำแพงแล้วไซ้ซอกคอกรอย่างเร่าร้อน  กรไม่สามารถที่จะขัดขืนได้เขาได้แต่เอามือดันหน้าอกของบิ๊กไว้ แล้วในที่สุดกรก็ยอมปล่อยให้บิ๊กกระทำ จากมือที่กรเคยผลักดันบิ๊กแต่ตอนนี้เขากลับเอามาลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังของบิ๊ก  ยิ่งกรทำบิ๊กก็ยิ่งเกิดอารมณ์ กรรู้สึกได้ดีเพราะเขาสัมผัสถึงอวัยวะบางสิ่งบางอย่างที่พองโตเต็มที่อยู่บริเวณต้นขาของเขา  บิ๊กยังเล้าโลมกรต่อไปเรื่อยๆทั้งสองดูปากกันอย่างดูดดื่มบิ๊กสอดลิ้นของเขาไปในช่องปากของกรแล้วลกน้ำลายกันอยู่พักใหญ่ จนเขาค่อยๆเลื่อนปากให้ลงต่ำลงมาจนถึงหัวนม บิ๊กเลียหัวนมของกรส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็เคล้าคลึงหัวนมอีกข้าไว้เช่นเดียวกัน กรร้องครางออกมาเบาๆตอนนี้เจ้ามังกรน้อยของเขาเริ่มโตเต็มที่แล้วเหมือนกัน ขณะที่กรกำลังเพลิดเพลินในรสสวาทของบิ๊กมโนภาพใต้สำนึกของกรก็ทำให้เขานึกถึงปอนขึ้นมาในบัดดน กรจึงขัดขืนโดยใช้พลังที่มีอยู่ผลักบิ๊กให้ออกไป   สำเร็จบิ๊กผงะถอยออกไป บิ๊กเริ่มรู้ตัวว่าได้กระทำผิดอย่างที่ไม่หน้าให้อภัยเขาจึงกล่าวขอโทษกร

      ขอโทษนะ กรยกมือขึ้นเพื่อบอกให้บิ๊กหยุดพูดก่อนที่จะพยักหน้ารับ

      มันเร็วไปไหมอะ บิ๊ก เราเพิ่งจะได้รู้จักกัน เราไปก่อนนะ กรรีบเดินออกมาเอาเสื้อแล้ววิ่งกลับบ้านไปโดยที่ไม่มองบิ๊กที่ยืนก้มหน้าอยู่อย่างสำนึกผิด

      กรรีบวิ่งกลับบ้านมาอย่างรีบร้อนจนลืมใส่เสื้อ เข้าเข้ามาในบ้านอย่างรีบร้อน รอยแดงจากการดูดของบิ๊กมันเด่นชัดจนทุกคนต่างสังเกตเห็นได้

      กร คอไปโดยอะไรมาแดงเป็นจ้ำเลย แม่ถามกรด้วยความสังสัย กรสะดุ้งตกใจพลางเอามือมาจับอยู่ที่รอยนั้นก่อนที่จะคิดหาเหตุผลมาอ่าง

      เอ่อ คือมดมันกัดเลยเอามือเกาสงสัยเกาแรงไปหน่อยเลยแดงแหละ กรตอบอย่างตะกุกตะกัก

      รีบไปทายาซะ เอ้แล้วนี่ตะกี้ถือกล่องยาไปไม่ใช่หรอ แล้วเอาไว้ไหนซะหละ แม่ถามกรที่ไม่เห็นเอากล่องพยาบาลมาด้วย

      เอ่อ ลืมแม่ เดี๋ยวกรขึ้นห้องก่อนนะ กรรีบวิ่งขึ้นห้องไปโดยที่แม่ยังพูดไม่จบ

      ดะเดี๋ยว ลูกคนนี้ แม่ถอนหายใจ

      พ่อว่ามันเหมือนรอยดูดนะ พ่อออกความคิด

      เหลวไหลหน้า แม่ขัดพ่อ

      จริงๆนะ ไม่เชื่อเดี๋ยวพ่อจะดูดให้ดู ทันทีพ่อก็เดินเข้ามาประชิดตัวแม่แล้วทำท่าที่จะโอบกอด แต่แม่รู้ทันจึงเดินหนีไปทางอื่นปล่อยให้พ่อยืนหงอยอยู่คนเดียว ตอนนี้พ่อเริ่มรู้สึกแปลกๆกับพฤติกรรมของกร

       

      กรวิ่งมาถึงบนห้องก็รีบล็อกประตูอย่างเร็ว เขาโดยเสื้อไว้บนเตียงก่อนที่จะเดินมาที่หน้ากระจก กรมองดูรอยแดงที่คอแล้วเอามือลูบๆไปทั่วบริเวณ กรสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้น มันเร็วมากสำหรับกรเพราะเขาเพิ่งจะรู้จักบิ๊กมาแค่ไม่กี่วันและได้เจอตัวกันจริงๆแค่วันเดียว กรกลัวว่าบิ๊กจะเป็นเหมือนกับคนอื่นๆที่หวังเพียงแค่ได้ พอเบื่อแล้วทิ้ง

      นายเป็นคนแบบไหนกันแน่เนี่ย กรพูดกับตัวเอง

      เสียงวิทยุชุมชนดังแว่วมาตามกระแสลม เสียงพระแสดงพระธรรมเทศนารับเทศการปีใหม่มีให้ได้ยินได้ฟังกันทุกที่ ของบางอย่างที่มันมิได้เป็นของของเรา หากเรายังไปดื้อดึงที่จะยึดมั่นถือมั่นเอาไว้ ก็จะมีแต่ทำให้เราเป็นทุกข์  จงใช้สติเป็นที่ตั้ง รู้จักการปล่อยวางเสียบ้าง ถึงแม้จะเป็นของของเราเองแต่รู้จักการให้การเสียสละมันก็จะเป็นเรื่องที่ดีเป็นกุศล ทำให้ไม่ต้องทุกข์ใจที่จะต้องกลัวคนอื่นมาแย้งไป ของทุกอย่างมีเกิดขึ้นก็ต้องมีบุบสลายลง สักวันของนั้นมันก็เสื่อมไปมันไม่อยู่กับเราเป็นนิจนิรันดรหรอก เสียงพระเทศทำให้กรนึกถึงปอนขึ้นมาทันที่

      ทำไมเราไม่ตัดใจจากปอนนะ กรพูดกับตัวเอง พูดง่ายแต่ทำยากเพราะคนเราทุกคนยังมีกิเลสอยู่เป็นนิจ การหักห้ามใจไม่ให้อยากไม่ให้มีเป็นเรื่องยาก ก็มักพูดกับตัวเองว่าเขาจะเลิกรักปอนให้ได้ แต่ที่ผ่านมาเขาก็ทำไม่ได้สักที่ ยิ่งกรห่างปอนมากเท่าไหรมันก็ทำให้เขาคิดถึงปอนมากขึ้นเท่านั้น

      ยามสายแดดออก กรลงมาช่วยงานข้างล่าง วันนี้ต้องเตรียมจัดที่จัดทางให้แขกที่จะมาร่วมงาน กรกับพ่อเอาโต๊ะออกมากางทำความสะอาดนอกบ้านโดยที่แม่เป็นคนเช็ดถู กรมองเข้าไปในบ้านไม่เห็นปู่จึงร้องถามพ่อ

      เอ้าปู่ไปไหนหละ

      ไปวัดไปยืมของ พ่อตอบ

      ไปคนเดียวอะหรอแล้วแบกของมายังไง กรถามด้วยความเป็นห่วง

      ใครว่าไปคนเดียว เขามีลูกทีม พ่อพูดทำให้กรคิดไปถึงพวกบรรดาลูกศิษย์ของปู่ กรยังยกโต๊ะต่อไปในไม่ช้าปู่ก็เดินกลับมา วัดกับบ้านของกรอยู่ห่างกันไม่ถึง 500 เมตรโดยที่มีสะพานข้ามคลองกั้นไว้ ตอนเด็กๆกรมักชอบขี่จักรยานขึ้นไปบนสะพานแล้วปล่อยให้รถไหลลงมาเป็นที่สนุกสนานถึงแม้จะเคยเกิดอุบัติเหตุบ้างแต่กรก็ยังสนุกกับมัน

      กร มาช่วยบิ๊กแบกของเข้าไปหน่อย กรแปลกใจที่เป็นบิ๊กที่แบกของผลุงพลังตามมาหลังปู่แทนที่จะเป็นลูกศิษย์ของปู่

      เอ้าเร็วสิ ปู่เรียกกรอีกครั้งเพราะกรเอาแต่ยืนมองดูบิ๊กอย่างงงๆ

      เอาะ กรสะดุ้งก่อนที่จะเดินไปช่วยบิ๊ก

      มาได้ไงหนะ แผลยังไม่หายไม่ใช่หรอ ถ้ามันเหวอะมาอีกอย่ามาให้ช่วยนะ

      ขอบใจที่เป็นห่วงแต่แผลมันค่อยยังชั่วขึ้นแล้ว

      อยากจะทำตัวเป็นฮีโร่หรือไง กรว่าบิ๊ก  บิ๊กไม่ได้พูดอะไรแต่กลับไปมองที่ซอกคอของกร

      คอยังไม่หายแดงอีกหรอ บิ๊กถามทำให้ให้กรทั้งอายทั้งโกรธ  เขากระชากของออกจากมือบิ๊กแล้วเดินเข้าบ้านไปอย่างเร็ว

      ทะเลาะอะไรกันหนะ แม่ถามบิ๊ก

      เปล่าหรอกครับแม่ กรเขาคงงอนผมเฉย

      แล้วไปทำอะไรให้หละแม่ถามด้วยความสงสัย

      ก็ที่ทำให้คอเขาแดงแหละครับ บิ๊กหลุดปากพูดออกไป

      เอ๋ แม่เริ่มสงสัยมากขึ้น

      เอ่อ คือผมหมายถึงที่แกล้งเอามดไปกัดอะครับ บิ๊กรีบแก้ตัวเป็นการใหญ่

      อ่อแม่นึกว่าเรื่องอะไร  บิ๊กขอตัวกลับบ้านไปซึ่งปล่อยให้แม่เข้าใจไปตามนั้น แต่พ่อจับพิรุดของบิ๊กได้และเริ่มกังวนใจ

       

      พอเริ่มเพลแม่ก็เข้าไปทำอาการกลางวันโดยมีพ่อเข้าไปเป็นลูกมือด้วย ส่วนคนที่เหลือก็อยู่ทำงานกันหน้าบ้าน แม่เริ่มลงมือทอดปลาทูที่ซื้อมาตั้งแต่ตอนเข้า พ่อที่กำลังคิดเรื่องของกรก็ยืดดูแม่อยู่ที่ตู้เย็นก่อนที่จะตัดสินใจเดินเข้ามาคุยกับแม่

      แม่ พ่อมีอะไรจะถาม พ่อเข้ามาที่ข้างหลังแม่

      หืม มีอะไรหรอ แม่ยังทอดปลาทูต่อไป

      แม่ว่า ลูกเราเป็นผู้ชายจริงๆอะหรอ แม่ได้ฟังก็นิ่งไปสักครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบออกไป

      ก็เป็นผู้ชายหนะสิ ไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อย แม่พูดแบบติดตลก

      อันนี้พ่อรู้แต่พ่อหมายถึง... พ่อเงียบไม่กล้าพูด แม่รู้ดีว่าพ่อจะพูดอะไรเธอจึงวางมือจากการทำอาหารแล้วหันกลับมาคุยกับพ่ออย่างจริงจัง

      พ่อกลัวว่าลูกจะเป็นเกย์งั้นหรือ

      แม่...พ่อตกใจที่รู้ว่าแม่คิดเหมือนเขาก่อนที่จะพยักหน้าตอบ

      ฉันหนะดูลูกออกนะ แล้วก็ดูรู้มานานแล้วด้วย แม่ปล่อยให่พ่อทำใจสักพักก่อนที่จะถามความเห็นของพ่อ

      แล้วคุณว่ายังไงหละ พ่อเอาแต่นิ่งไม่ตอบอะไร แม่รู้ว่าพ่อคงจะทำใจไม่ได้เพราะว่ากรเป็นลูกชายคนเดียวและเป็นอนาคตของครอบครัว

      แล้วเธอรู้มานานหรือยัง พ่อถาม

      นานแล้วตั้งแต่ตากรเรียนม.ต้น

      ลูกบอกหรอ

      เปล่าฉันเห็นลูกถ่ายรูปคู่กับผู้ชาย เจ้าทัศไงคุณจำได้ไหม คนที่ตากรเคยพามานอนที่บ้าน หนะ

      งั้นลูกก็

      ยัง แม่รู้ว่าพ่อจะพูดอะไร

      มีครั้งนึงตากรเคยมาคุยกับฉัน แกยอมรับว่าแกชอบผู้ชาย

      แล้วเธอว่าไง

      ฉันก็เหมือนคุณตอนนี้ไง พูดอะไรไม่ถูก พอฉันตั้งสติได้ฉันก็บอกให้ลูกเล่าความจริงทั้งหมด นี่ขนาดฉันรู้มาก่อนบ้างแล้วนะ  ตากรแกเล่าให้ฟังหมดทุกอย่างเลยว่าเคยคบกับใครหรือทำอะไรมา ฉันดีใจนะที่แกบอกว่าแกไม่เคยมีอะไรกับใคร พ่อจากเป็นผู้เข้ามาถามเรื่องของกร ในต้องนี้ข้อสงสัยของพ่อก็เป็นจริง ถึงพ่อจะเป็นคนหัวสมัยใหม่แต่พ่อก็ยังทำใจยอมรับไม่ค่อยได้สักทีเดียว

      แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป พ่อถามแม่ ในจังหวะเดียวกันกรก็เดินเข้ามาพอดีเขาเห็นพ่อกับแม่คุยกันอยู่ก็เลยแอบฝังอยู่ใกล้ๆ

      ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของเวรของกรรม แม่พร้อมที่จะยอมรับในพฤติกรรมของลูกชาย

      เรื่องแบบนี้มันรักษาได้ไหม

      พ่อ นี้มันไม่ใช่โรคหวัดนะที่จะกินยาแล้วหาย แม่ว่าพ่อในความคิดที่ไม่เข้าท่า

      ทำใจยอมรับเถอะ ยังไงเขาก็เป็นลูกของเรานะ ขอให้เป็นคนดีก็พรแล้วนี่ แม่พูดกับพ่อ พ่อเริ่มที่จะมีรอยยิ้มออกมาบ้างเล็กน้อย กรซึ้งได้ยินเรื่องราวทั้งหมดก็ซึ้งใจที่พ่อและแม่ทำใจยอมรับเขาได้ถึงแม้ท่านจะยังไม่ยอมรับหมดทั้ง 100 % ก็ตาม กรเอามือปาดน้ำตาออกแล้วเดินเข้าไปหาพ่อกับแม่ เขารีบเปลี่ยนสีหน้าทันที

      เอ้าๆคุยอะไรกัน ปลาไหม้หมดแล้ว กรร้องบอกแม่ แม่ตกใจรีบหันกลับไปดู ปรากฏว่าปลาทูที่อยู่ในกระทะไหม้เกรียมจนกินไม่ได้ พ่อหัวเราะชอบใจ

       

      แสงแดดยามบ่ายส่งกระทบมาพื้นถนนแห้งผาดมีแต่ฝุ่นผง สายลมยังพัดเข้ามาเรื่อยๆแถมมันยังหอบเอาฝุ่นเอาใบไม้ให้เข้ามาในบ้านด้วย บ้านที่พึ่งเช็ดถูไว้ใหม่ๆกลับมาสกปกอีกครั้ง แม่จึงใช้ให้กรไปฉีดน้ำพรมถนนหน้าบ้าให้ดินเปียก  เมื่อน้ำหยกกระทบลงพื้นดิน ไอดินที่ร้อนก็โชยกลิ่นขึ้นมา  มันหอมสดชื่นเกินกล่าที่จะหาสิ่งใดมาบรรยายได้ เสียงโทรศัพท์ของกรดังขึ้นเขาจึงเอาขาหนีบสายยางไว้แล้วรับโทรศัพท์ หากปล่อยให้รถน้ำที่เดียวดินมันก็จะเฉอะแฉะกรจึงหนีบสายยางส่ายไปสายมา  แม่ที่นั่งอยู่ในบ้านเห็นภาพนี่น่าเกียดนี้ทนไม่ได้เลยอกมาว่า

      ตากร ทำอะไรน่าเกลียดไม่อายเขาบ้านหรือไง กรได้ยินเสียงแม่ก็รีบวางโทรศัพท์แล้วหันไปคุยกับแม่

      อะไร

      เอาไปหนีบยั่งงั้นได้ไงน่าเกลียด แม่พูดกรจึงหันก้มลงไปดู ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมายิ้มแบบอายๆ

      เสียงกดซัสเตอร์ดังขึ้นกรจึงหันไปดูที่ต้นทางของเสียงนั้น บิ๊กที่ยืนแอบถ่ายรูปอยู่กรรีบเก็บโทรศัพท์ทันใด

      ทำอะไรอะ กรตะโกนถาม

      เปล่านี่ บิ๊กตอบไปก่อนที่จะเข้าไปหากร กรรู้ว่าบิ๊กจะเดินเข้ามาหาจึงทิ้งสายยางแล้วรีบเดินเข้าบ้าน

      ยังไม่หายโกรธบิ๊กหรอ บิ๊กร้องถามกรที่เดินจ้ำอ้าวเข้าบ้าน กรหยุดเดินแล้วหันกลับไปตอบ

      ไม่ได้โกรธนี่ กรว่า

      แล้วตกลงคืนนี้จะไปเค้าดาวน์กับบิ๊กเปล่า  กรอ้ำอึ้งอยู่นานแม่จึงตอบให้

      ไปสิจ๊ะ ตากรหนะไม่เคยออกไปไหนเลย ยังไงน้าฝากกรด้วยนะบิ๊ก

      แม่ กรจะพูดขัดแต่แม่เหยียบเท้าไว้

      ได้ครับ งั้นเดี๋ยวตอนมืดๆบิ๊กจะมารับกรนะครับ บิ๊กบอกกับแม่กรแล้วเดินกลับเข้าบ้านไป

      แม่อะ กรหันมาบ่นแม่

      ไปเป็นเพื่อนบิ๊กเขาหน่อยสิ เขาอุส่ามาชวน นานๆจะได้ออกไปเที่ยวสักที่นิ่

      ครับ กรตบปากรับคำ

       

      ตกเย็นกรรีบอายน้ำแต่งตัวตั้งแต่หัววัน แล้วลงมาดูหนังข้างล่าง พ่อเห็นก็แปลกใจจึงเข้าไปถาม

      โหนี่จะไปไหนแต่ตัวซะหล่อเชียว

      หืมแล้วบอกว่าไม่อยากไป ไม่ค่อยเห่อเลยนะ แม่เข้ามาแซว กรได้แต่อายหน้าแดง

      จะไปไหนหรอพ่อถามแม่

      มันจะไปเค้าดาวน์กับตาบิ๊ก

      โหนี่เพิ่งจะ 6 โมง อีกตั้ง 6 ชัวโมงแหนะ

      มันก็ต้องเครียมพร้อมไว้ก่อน กรตอบไป แม่มองดูกรที่ใส่เสื้อยืดตัวเดียวจึงถามไป

      ใส่เสื้อบางไม่กลัวหนาวเหรอลูก

      มันคงไม่หนาวมัง

      ก็ไม่แน่นะ พ่อพูดสมทบ

      ไม่รู้ว่าป่านนี้เจ้าบิ๊กจะแต่งตัวหรือยัง พ่อพูดขึ้น

      ยังหรอกมั้งตะกี้เพิ่งจะมายืมเข็มถักโคเชอยู่เลย แม่ว่า

      เข้าเอาไปทำอะไรหรือแม่ กรถามด้วยความอยากรู้

      ไม่รู้เหมือนกันไม่ได้ถาม

       

      ตกดึกถึงเวลานัดกรก็มานั่งรอบิ๊กอยู่ที่หน้าบ้าน กรคิดอยู่ว่าบิ๊กจะพาเขาไปที่ไหนเพราะบิ๊กเพิ่งจะมาอยู่ไม่คุ้นกับที่แถวนี้ ไม่นานบิ๊กก็เดินออกมา เขาใส่เสื้อหนาวคอสูงแขนยาวสีขาวแล้วมีเสื้อคลุมสีดำทับอยู่ชั้นนอก  ส่วนกางเกงเขาก็สวมยีนสีดำเช่นเดียวกัน บิ๊กแต่งตัวดูเหมือนกับพระเอกหนังเกาหลีอย่างไรอย่างนั้น หุ่นที่ดูบึกบึนของเขามันช่างเหมาะกับชุดที่เขาสวมใส่อยู่เป็นยิ่งนัก

      รอนานไหม บิ๊กเข้ามาถามกร

      จะไปที่ไหนหละแต่ตัวซะ

      เราดูเป็นไงบ้าง หล่อเปล่า บิ๊กถามความเห็นจากกร

      ก็ดี แต่ดูจะเวอร์ไปนิส กรพูดประชด

      ป่ะบิ๊กยื้นแขนให้กรควงแต่กรกลับลุกแล้วเดินออกไป

      นี่ๆไม่รอบิ๊กแล้วจะไปถูกหรอ บิ๊กพูดตามหลังไป

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

      ที่ที่บิ๊กพากรมาเค้าดาวน์ในวันนี้มันเงียบสงบเหมือนที่กรต้องการ บิ๊กพากรขึ้นมานั่งบนแท็งน้ำปูนหลังบ้านที่สูงราวๆกับตึกสองชั้น บิ๊กเลือกมุมที่ดีที่สุดให้กร

      นึกว่าจะไปที่ไหน ที่แท้ก็หลังบ้านนี่เอง

      ก็บิ๊กไม่รู้จะพาไปที่ไหนนี้คนมันไม่คุ้นที่อะ บิ๊กว่า

      แล้วดูเขาแต่งตัว บิ๊กหัวเราะชอบใจ  กรนั่งอย่างเซ็งๆจบบิ๊กชี้ให้กรดูอะไรที่อยู่ตรงหน้า

       เบื้องหน้าตรงไปประมาณ 1,000 เมตรมีงานฉลองยิ่งใหญ่แสงไฟหลากสีส่องแสงระยิบระยับหน้ามอง กรรู้สึกประหลาดใจที่ได้เห็นเขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะมีที่ที่สวยงามแบบนี้อยู่จริง

      เขาว่าสิ่งที่เราค้นหามาเกือบทั้งชีวิตที่แท้มันก็อยู่ใกล้ตัวจนทำให้เรามองไม่เห็นจริงๆนะ นายเจอมันได้ไง กรหันมาถามบิ๊ก

      มันบังเอิญแหละ บิ๊กตอบ

      แปลกนะงานที่ตรงนั้นเขาก็จัดกันมาทุกๆปี แต่เราไม่เคยเห็นความงามของมันเลย จนมาวันนี้ นายเป็นคนเจอมัน นายพบความสวยงสมของมัน กรตื้นตนจนน้ำตาไหลออกมา บิ๊กดีใจที่เห็นกรมีความสุขที่อยู่ที่นี่ อีกประการเขาดีใจที่ได้อยู่สองต่อสองกับกร   ที่เขาว่ายิ่งสูงยิ่งหนาวเห็นท่าจะจริงสายลมที่พัดผ่านกระทบผิวที่เนียนละเอียดของกรทำให้เขาหนาวสะท้าน บิ๊กไม่รีรอที่ต้องเห็นคนรักของตนต้องทนกับความเหน็บหนาว เขารีบถอดเสื้อคลุมออกแล้วเอามาสวมให้กับกรก่อนที่เขาจะโอบกอดเพื่อที่จะให้ไออุ่นในร่างกายของเขาเผื่อแผ่ไปยังคนรัก   กรยินยอมให้บิ๊กกอดรัดสักครู่หนึ่งแล้วจึงค่อยๆพลักตัวออกห่าง ด้วยความเขินอายทำให้เขานั้นหน้าแดงระเลื่อน     ส่วนบิ๊กเองก็รู้ว่าตนได้ล่วงเกินไปก็ขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่  แต่มีหรอที่กรจะไม่ยกโทษให้เพราะบิ๊กทำให้วันนี้เป็นวันที่พิเศษสำหรับกร

      ใกล้เวลาเที่ยงคืนเข้ามาทุกที ทั้งบิ๊กและกรก็ใจจดใจจ่อกับการนับถอยหลัง โทรศัพท์มือถือของเขาทั้งคู่ก็มีเสียงข้อความเข้าอย่างไม่ขาดสาย สวัสดีปีใหม่ ข้อความสั้นๆที่ถูกส่งจากเพื่อนรักแน่นเต็มถาดรับของมือถือ ทั้งคู่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูพร้อมตอบกลับด้วยความรู้สึกเช่นเดียวกัน กรเขากำลังรอข้อความจากใครบางคนอยู่แม้ว่าเขาเองจะส่งข้อความล่วงหน้าไปแล้วแต่ก็ยังไม่ได้รับข้อความที่ตอบกลับมา บิ๊กรู้ดีว่าคนที่กรรอรับข้อความนั้นเป็นใคร

      รอข้อความจากปอนอยู่หรอกร บิ๊กถาม

                      อืม ยังไม่เห็นส่งมาเลย

                      ตังหมดมั้ง บิ๊กบอกเพื่อให้กรสบายใจขึ้น

                      ก็คงงั้น กรรู้ดีว่าปอนคงไม่มาสนใจอะไรเขาหรอก แต่กรก็ยังให้ความหวังกับตัวเอง

                      ถึงผ่านคืนนี้แล้วปีจะเปลี่ยนไป แต่ใจของเราจะไม่เปลี่ยนแปลง บิ๊กได้ยินดังนี้จึงตักสินใจถามกรตรงๆ

      นายจะยังรักปอนต่อไปใช่ไหม บิ๊กถามกรอย่างจริงจัง กรไม่จำเป็นที่จะต้องคิดอะไรให้เสียเวลาเขาตอบคำถามนั้นโดยทันที

      ใช่ ถึงเดือนหรือปีมันจะเปลี่ยนไปสักแค่ไหน แต่ความรักและความหวังดีที่เราให้ปอนมันยังเหมือนเดิมแถมมันจะยังเพิ่มมากขึ้นด้วยซ้ำ  คำตอบนี้สร้างความสะเทือนใจต่อบิ๊กมาก ถึงแม้ว่าบิ๊กจะไม่ร้องไห้ออกมาแต่น้ำตาแห่งความผิดหวังและเสียใจก็ไหลหลั่งออกเป็นสายอาบแก้ม

      ทั้งๆที่ปอนมีแฟนอยู่แล้วเนี่ยนะ บิ๊กพูดแทงใจดำกร

      ความรักของเราไม่ใช่การได้มาเป็นเจ้าของนะบิ๊ก เรายินดีที่จะรักและยินดีที่จะทำให้คนที่เรารักมีความสุข

      ทั้งๆที่มันจะทำให้นายเจ็บอย่างนั้นหนะหรอ บิ๊กตะคอกใส่กร ก่อนนั่งนิ่งไม่พูดจา จนบิ๊กรู้ตัวว่าตนใส่อารมณมากเกินไปและไม่ควรพูดออกไปอย่างนั้น เขาจึงเริ่มสงบลง

      ถ้าเราเป็นปอนนะ เราคงโชคดีมากเลยที่รู้ว่ามีคนที่รักและจริงใจกับเขาขนาดนี้ เราอิจฉาปอนจริงๆ

      คนเราอะนะมักจะหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง บางทีเราอาจจะไม่ดีพอสำหรับปอนก็ได้

      ไม่จริงหรอก บิ๊กเถียง

      นายหนะดีที่สุดแล้ว

      เอาเป็นว่าเราคุยเรื่องอื่นดีกว่าไหม กรรีบตัดบทเพราะตอนนี้ใกล้เวลาที่จะถึงปีใหม่แล้ว

      เรามานับถอยหลังกัน บิ๊กเอ่ยปากชวนกร เขาทั้งคู่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา

      10  9  8  7  6  5  4  3  2  1 สวัสดีปีใหม่ ทั้งคู่กล่าวสวัสดีปีใหม่ให้กันและกัน  พลุนัดแรกถูกจุดขึ้นท่ามกลางเสียงไชโยโห่ร้องที่ดังกึกก้องพอๆกับเสียงพลุ เพลงสวัสดีปีใหม่ถูกร้องบรรเลงพร้อมๆกันทั่วทุกสารทิศ ทั้งบิ๊กและกรต่างมองดูพลุด้วยกันอย่างมีความสุข

      พลุดอกแล้วดอกเล่าถูกจุดขึ้น ท้องฟ้าในยามราตรีกลับสว่างไสวขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง บิ๊กจ้องมองดูกรที่กำลังมองดูพลุอย่างมีความสุข นี้เป็นครั้งแรกของกรที่ได้มานั่งนับถอยหลังกับคนอื่นที่ไม่ใช่กับทีวีเหมือนอย่างทุกๆปี บิ๊กตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูกจนอยากที่จะหาคำใดมาบรรยายได้  พลุรูปหัวใจสีม่วงถูกจุดขึ้นทำให้บิ๊กนึกอะไรบางอย่างมาได้ ไม่รอช้าเขาเอื้อมมือไปจับที่บ่าของกร  กรหันกลับมาที่บิ๊กไม่ทันที่กรจะได้พูดอะไรบิ๊กก็บรรจงจูบลงมาบนริมผิวปากของเขาทันที  กรตั้งตัวไม่ทันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงได้แต่ปล่อยให้เลยตามเลย ผ่านไปหลายนาทีบิ๊กจึงได้ถอนปากออกมา กรได้แต่นั่งนิ่งอึ้งกับเรื่องที่เกิดขึ้น และเขาก็ได้หัวเราะออกมาเบาๆ

      เหอะๆ นี่เราโดนจูบหรอเนี่ย กรพูดแบบไม่เชื่อตัวเอง แล้วจึงกุมมือของบิ๊กขึ้นมาใว้ที่อก

      ขอบใจนะ วันนี้มันเป็นวันที่วิเศษมากเลย กรกล่าวขอบใจบิ๊กสำหรับเรื่องราวดีๆที่ผ่านมา

      ไม่เป็นไร ถ้านายชอบเราก็มีความสุข

      เราให้จูบแค่วันนี้วันเดียวเท่านั้นนะ กรบอกบิ๊กด้วยความเขินอาย

      วันนี้วันเดียวเองหรอ  งั้นเอาให้คุ้ม ทันที่บิ๊กก็ประกบจูบกับกรเป็นรอบที่สอง กรยังไม่ทันจะตั้งตัวและไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นอีกก็ร้องออกมาอย่างตกใจ

      เดี่ยวก่อ...(น)  โกกิและมิดหมี สุนักแสนรู้ของกรที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดและยืนดูมาโดยตลอดก็หอนรับอย่างโหยหวน

       

      รุ่งเช้าพ่อขึ้นมาปลุกกรให้ตื่นตั้งแต่ไก่โห่ วันนี้ที่บ้านมีการทำบุญเลี้ยงพระเพลกรต้องมาช่วยทำงานแต่เช้า หน้าที่ของกรคือ จัดการเรื่องจัดที่นั่งให้สำหรับแขกที่มางานและเรื่องการรับรองแขก โดยกรมีบิ๊กคอยช่วยอีกแรง ส่วนเรื่องอื่นๆทั้งเรื่องข้าวปลาอาการย่าและบรรดาลูกศิษย์ลูกหาของปู่จะคอยจักการ  ตกสายพระก็มาพิธีจึงเริ่มขึ้น ส่วนนี้กรจึงปลีกตัวออกมาเพราะเขาไม่ชอบอยู่ในที่มีคนเยอะๆ บิ๊กจึงตามกรออกมาด้วย

      สิวหายนี่ บิ๊กบอกกร ส่วนกรก็เอามือมาคลำๆที่หน้าผากเมื่อคลำไม่เจอสิวกรก็ดีใจเป็นอันมาก

      จริงด้วย จะได้ไม่อายคนซะที

      กร เย็นนี้บิ๊กต้องกลับแล้วนะ บิ๊กพูดด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ

      แป็บเดี๋ยวเองเนอะกรเสียดาที่มีเวลาอยู่กับบิ๊กแค่ช่วงสั้นๆ

      ก็อย่างนี้แหละที่เขาว่าช่วงเวลาที่มีความสุขมันมักจะสั้นเสมอ

      แล้วจะกลับมาเมื่อไหร่หละ กรถามบิ๊ก

      ไม่รู้สิ อาจจะเป็นช่วงซัมเมอร์มั้ง บิ๊กให้คำตอบอย่างไม่แน่นอน

      เอาเป็นว่าเดี๋ยวเราโทรหาแล้วกัน ดีไหม กรพูดทำให้บิ๊กรู้สึกดีขึ้นมานิดนึง

      ถ้าว่างก็ไปหาเราที่ลำปางบ้างนะ

      ถ้ามีโอกาสนะ กรให้สัญญาต่อบิ๊ก ทั้งคู่กอดลากันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่บิ๊กจะขอตัวไปเก็บของ

       

      เมื่อพระกลับวัดแล้วทุกคนที่มาก็ต่างร่วมรับประทานอาหารแม่เรียกกรให้ไปตามบิ๊กมาทานข้าวด้วยกัน  กรวิงไปตามบิ๊กที่บ้านแต่ไม่เจอตัว กรเดินหาอยู่นานจนป้าพรเดินกลับมาที่บ้านแล้วบอกกรว่าบิ๊กกลับไปแล้ว  บิ๊กออกไปตั้งแต่ 11 โมงเพราะกลัวไม่ทันรถจนไม่ได้ลากร กรรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ไปส่งบิ๊กแล้วเขาก็เดินกลับบ้านไป ที่โต๊ะอาหารกรได้แต่นั่งเขี่ยข้าวโดยที่ไม่แตะสักนิดทั้งที่มันเป็นอาการโปรดของกร  ถึงแม่ว่ากรกับบิ๊กจะรู้จักกันแค่ช่วงสั้นๆแต่บิ๊กก็ทำให้กรมีความสุขและทำให้กรลืมปอนได้ชั่วขณะหนึ่ง ตอนนี้กรได้แต่นั่งซึมไม่พูดไม่จา ป้าพรที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงเดินเข้ามาหากรพร้อมกับถือกล่องของขวัญก่องหนึ่งเข้ามา

      บิ๊กเขาตั้งใจจะเอามาให้กรนานแล้วแหละ แต่มันไม่กล้าเลยฝากป้ามา ป้าพรยื่นของให้กร

      อะไรหรอป้าพร กรถามถึงของในนั้น

      เปิดดูซิ 

      กรบรรจงเปิดดูของในกล่องนั้นอย่างทะนุถนอม เขาแกะเทปใสออกที่ละชิ้นๆ โกกิและมิดหมีสุนัขคู่ใจกานั่งดูด้วยความอยากรู้อยากเห็นด้วย

      ผ้าพันคอหรอ ก็แปลกใจเมื่อเห็นของในกล่องนั้น เขาหยิบผ้าผืนนั้นขึ้นมาพันคอก่อนที่จะหยิบกระดาษโน้ตมาอ่าน

      สำหรับคนพิเศษของบิ๊ก หวังว่ากรคงจะชอบนะ ผ้าพันคอสีม่วงอ่อนที่ถักมาจากไหมพรมดูราวกับว่าเจ้าของของมันจะตั้งใจถักให้กับคนพิเศษของเขา ลายระเอียด เล็กน้อยของขอบตะเข็บก็เย็บอย่างพิถีพิถัน ไม่มีเศษด้ายยื่นออกมาเลย

      บิ๊กเขานั่งถักเองเลยนะ ป้าพรพูดเปรยๆ

      โหถักเป็นด้วยเหรอ กรแปลกใจ  กรรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เอาอะไรให้บิ๊กเลย กรรีบควักโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วส่งข้อความขอบคุณไปให้บิ๊ก ข้อความถูกระงับเพราะเงินในโทรศัพท์หมด กรรู้สึกผิดหวังเล็กๆก่อนที่เขาจะลุกเขาของไปเก็บ

      ตกเย็นกรเดินออกมานอกบ้านพร้อมใสผ้าพันคอที่บิ๊กถักให้ แม่เห็นกรเศร้าๆซึมๆจึงเดินมาดู

      เป็นอะไรกร ไม่สบายหรอ

      เปล่าฮะ กรตอยด้วยน้ำเสียงเบาๆ

      คิดถึงบิ๊กหละซิ แม่รู้ทัน

      แม่ กรมีอะไรจะถาม กรรู้สึกสับสนกับตัวเองยิ่งนักเขาไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรกันแน่

      แม่ กรแอบชอบคนอยู่คนนึ่งนะ กรชอบเขามากเลย แต่พอมาวันนึงกรกลับไปมีความรู้สึกดีๆให้กับคนอีกคนนึงอะ กรงงอะตกลงแล้วกรชอบใครกันแน่อะ

      ที่กรพูดมาเนี่ยกรหมายถึงปอนกับบิ๊กใช่ไหม แม่ถามกร

      ฮะแม่ กรยอมรับออกมา

      แม่ว่านะที่ลูกรู้สึกดีกับบิ๊กเพราะว่าบิ๊กเขาทำให้กรไม่เหงา กรรู้ตัวไหมว่ากรหนะเป็นคนที่ขี้เหงานะลูก

      กรเนี่ยนะ กรไม่รู้ตัวเองมาก่อนเลย

      ใช่ และการที่กรขี้เหงานี่แหละพอเมื่อกรมีใครที่เข้ามาคอยเอาใจ เป็นเพื่อนคุยให้มันก็ทำให้กรเริ่มเกิดควารู้สึกที่ดีกับคนคนนั้นจนบางทีกรอาจจะคิดไปว่ากรชอบเขา แต่ไม่เลยกรไม่ได้ชอบเขากรแค่ต้องการเขาเพื่อให้เขามาอยู่เป็นเพื่อนกรเท่านั้น

      แม่นี่เก่งเนอะคิดได้ไงอะ แต่บางครั้งบิ๊กก็ทำให้กรลืมปอนได้นะแม่

      งั้นก็เอามันทั้งสองเลยสิลูก แม่พูดติดตลกก่อนที่จะชวนกรไปกินข้าว

      ที่โต๊ะอาหาร ปู่ถามกรว่าจะกลับมหาลัยวันไหน กรนั่งคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงบอกไปว่าจะกลับวันพรุ่งนี้ตอนเที่ยงเพราะว่าจะไปกับครูอรินและครูชาติ ที่เขาจะไปทำธุระที่โรงพยาบาลชลบุรี

      ไปเร็วขนาดนี้เก็บของแล้วหรอ ป้าประหลาดใจที่กรจะกลับมหาวิทยาลัยเร็วขนาดนี้

      ก็มีแต่เสื้อผ้าและอุปกรการเรียนอีกนิดหน่อยอะ แป๊บเดียว กรทานอาหารได้สองสามคำก็ขอตัวไปเก็บของบนห้อง  

      ในค่ำคืนที่แสงจันทร์กระจ่างทั่วท้องฟ้า แต่ภายในห้องกลับมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งเหงาอยู่ สงสัยคำที่แม่บอกจะเป็นจริง กรเป็นคนที่ขี้เหงาเอามากๆและคนประเภทนี้เองก็มักจะรักใครได้ง่ายๆด้วย

      นายจะกลับมาม.หรือยังนะปอน กรพูดกับตัวเองพลางนั่งเขี่ยน้ำในแก้วเล่นอย่างซึมๆ เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง กรหันไปดูนาฬิกาก็รู้ว่าตนเองต้องนอนแล้วเพื่อที่จะได้ตื่นให้ทันรถ ชายหนุ่มถอดเสื้อออกแล้วโยนใส่ตะกร้าแล้วก้มถอดกางเกงออกเปลี่ยนเป็นสวมบล็อกเซอร์แทน ทั้งที่ตาปิดลงแล้วแต่ในใจของกรก็ยังไม่ยอมหลับ เขาเอาแต่ว้าวุ่น คิดมากเรื่องนู้นเรื่องนี้กรนอนพลิกไปพลิกมาจนจนเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว

      กร ตื่นได้แล้วลูก สิบโมงกว่าแล้วนะ กรสะดุ้งตื่นที่ได้ยินเสียงแม่ร้องเรียก เขาแหงนไปดูนาฬิกา ที่บอกเวลาว่าตอนนี้สิบโมงครึ่งแล้ว

      ไปแล้วครับๆ กรวิ่งกุลีกุจรลงมาอาบน้ำเพราะกลัวครูจะรอนาน

       

       

      ...............................................................................................................................................

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

      กรกลับมาถึงมหาวิทยาลัยในตอนบายเขาเริ่มลงมือเคลียห้องที่ปล่อยทิ้งไว้ซะนานจนฝุ่นเกาะเต็มไปหมดแล้วอยู่ๆโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น ต้นสายก็คือปอน กรตัดสินใจไม่ถูกว่าจะรับหรือไม่รับ เพราะเขาเริ่มตงิดใจว่าการที่ปอนโทรมาหาเขาในครั้งนี้คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ กรยืนตัดสินใจอยู่นานจนปอนวางสายไป แล้วก็โทรกลับมาใหม่

      เป็นไงเป็นกันวะไอ้กร กรพูดกับตัวเองแล้วจึงตัดสินใจรับสายนั้น

       

      ที่สวนเกษมปอนได้ยืนรอกรอยู่แล้ว กรเมื่อเห็นปอนยืนกอดอกมองจ้องมาทางเขาก็รู้ทันทีเลยว่าเรื่องที่ปอนนัดมาคุยคงจะไม่ดีเสียแล้วจึงทำเป็นเดินช้าๆเพื่อถ่วงเวลาจนปอนชักรำคานจนต้องเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหา

      กรนายยังจำที่ที่แต่ก่อนเราชอบไปนั่งเล่นด้วยกันได้ไหม ปอนเอ่ยถามกร

      สวนนันฯ เรารู้ดี

      ใช่ ที่นั่นแหละ แล้วนายจำคำที่เราเคยสลักลงบนต้นปีบได้ไหม

      อืม เรารู้ดีถึงที่ตรงนั้น และจะไม่มีวันลบเลือนไปจากเราเพราะรู้ไม่ใช่จำได้ ความจำสักวันมันจะต้องลืม แต่ความรู้มันจะไม่มีวันลืมได้ มีอะไรหรือ กรกลับมาถามปอนอีกครั้ง

      เอ่อ คือ คือ เราอยากให้นายไปเอามันออกซะ แล้วลืมเรื่องของเราทั้งหมด ปอนก้มหน้าลงไม่กล้าสบตากับกรเพราะรู้สึกผิด ประโยคนี้เหมือนกับสายฟ้าที่เข้ามาผ่าหัวใจของกรให้แยกออกจากกัน

      เขาสั่งให้นายมาบอกเราใช่มะ

      ไม่ใช่หรอก คือ..เราไม่อยากให้เขาเห็นหนะ ไม่อยากมีปัญหาหนะ ไปลบออกให้หน่อยนะ ปอนพยายามพูดขอร้องกรแต่ก็ไม่เป็นผล

      ไม่ นายอยากลบก็ไปลบเองสิ  กรเดินหนีออกมาห่างๆ

      เฮ้ย...ขอร้องหละให้ไหว้ก็ได้ นะๆ ปอนยังลบเล้ากรอยู่อย่างนั้นจนกรทนไม่ไหว้จึงระเบิดออกมา

      ปอน ถ้านายเคยรักใครสักคนอย่างหมดหัวใจ แล้วอยู่ๆคนคนนั้นมาบอกเลิกแล้วสั่งให้เราทำอะไรบางอย่างที่เป็นการตอกย้ำว่าไม่มีวันที่เราจะกลับมาเป็นอย่างเดิมได้แล้วอะ นายจะทำลงไหม กรน้ำตาคลอเบ้า ยิ่งทำให้ปอนรู้สึกผิด

      แต่เราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ได้ไม่ใช่หรอกร

      งั้นก็ต้องขอเวลาให้เราทำใจซะหน่อยเหอะ

      แล้วเมื่อไหร่หละที่นายจะทำใจได้ ปอนผูดขึ้นทำให้กรยิ่งเจ็บ แล้วจึงหันกลับไปตะวาดใส่ปอน

      จนกว่าเราจะตายหละมั้ง กรพูดจบก็เดินหนีไปโดยไม่หันหลังกลับไปทางปอนอีกเลย

       

      กรเดินถือมีดมาที่ต้นปีบในสวนนันทนาการ ในใจของกรตอนนี้รู้สึกเสียดายวันเวลาเก่าๆที่เขาได้อยู่ใกล้ปอน ในขณะที่กรยกมือจะใช้มีดทำลายรอยสลักแห่งความทรงจำนั้น อยู่ๆก็มีมือมือหนึ่งเข้ามาคว้ามือของกรไว้

      จะลบมันออกหนะแน่ใจแล้วหรอ คำพูดด้วยน้ำเสียงที่คุ้นหูทำให้กรต้องแปลกใจ เขาค่อยๆหันมาดูชายเจ้าของเสียงนั้น

      บิ๊ก.. กรประหลาดใจที่เห็นบิ๊กยืนอยู่ครงหน้า

      จะลบมันออกแน่ใจแล้วหรอ บิ๊กถามย้ำคำเดิม กรไม่คอบคำถามนี้เขาได้แต่ถามบิ๊กตอบเพื่อปัดความสนใจ

      มาได้ไงอะ บิ๊กรู้ดีว่ากรยังตัดใจไม่ได้เรื่องของปอน ถึงแม้ว่ากรจะไม่ตอบคำถามก็ตาม

      ลบออกไปมันจะได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา นี่มันต้นไม้นะถึงลบออกไป กรจะลืมปอนได้หรอ ของแบบนี้มันต้องลบที่ใจซิ่

      ก็เจ้าของเขาไม่อยากเอาไว้จะให้ทำไงหละ

      ก็ให้เจ้าของเขามาลบเองดิ่ กรไม่อยากจะพูดเรื่องนี้อีกต่อไปแล้วเขาวงมือจากการลบข้อความนั้นแล้วเดินมายังสะพาน บิ๊กก็เดินตามมาติดๆกัน

      น้ำที่นี่เขียวได้ใจจริงๆเลยเนอะ บิ๊กพยายามพูดตลกให้กรหายเศร้า

      นี่แหละสระมรกต..............นายยังไม่ได้ตอบเราเลยว่ามาได้ยังไงกรย้อนถามบิ๊ก

      อืม...เรายังไม่ได้บอกนายหรอว่าเราได้เทียบโอนมาเรียนที่นี่แล้ว

      จริงอะ ไม่อยากจะเชื่อ

      จริ๊ง

      บ้าเปล่าย้ายมาตอนกลางเทอม ม.ไหนเขาจะรับวะกรไม่เชื่อบิ๊กและยังคาดคั้นเอาคำตอบให้ได้

      ก็ ม. เนี้ยแหละ บิ๊กยิ้มๆ ปล่อยให้กรงงเข้าไปอีก

      ทำไมถึงย้ายมาเรียนที่นี่ อย่าบอกนะว่าอยากเห็นทะเล

      เปล่า

      แล้วเพราะอะไรหละ บิ๊กเดินเข้ามาใกล้ๆกรแล้วเอามือจับแขนทั้งสองข้างของกรเอาไว้ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่ปอนและแฟนหนุ่มของเขาเดินผ่านมาพอดี

      ก็เพราะที่นี้มีกรยังไงเล่า บิ๊กพูดจบก็พลันเข้าไปจูบที่หน้าผากของกร กรไม่ทันสังเกตุว่าข้างหลังเขานั้นปอนและแฟนใหม่ของปอนกำลังเดินมา

      แหมคู่นี้เข้ากันได้ดีจริงๆเลยนะปอน อ๊อดพูดเหน็บกับปอนเพื่อให้กรได้ยิน

      คู่เธอก็เหมาะสมกันดีแล้วนี่ ยังกะกิ่งทองกับใบบัวบก กรตอกกลับไปทันควัน

      เอาไปต้มกินเองเหอะหวะไอ้กร อ๊อดเริ่มมีน้ำโหจึงขึ้นเสียงจนทำให้บิ๊กที่ยืนดูอยู่ทนไม่ได้ที่คนรักถูกว่าจึงเข้าไปร่วม

      อ่อ เนี่ยนะคนที่ชื่อปอน บิ๊กเดินดูปอนรอยๆตั้งแต่หัวจรดเท้า

      ทำไมวะ ปอนถามอย่างไม่พอใจ

      เปล๊า ก็แค่สงสัย

      สงสัยห่าไรวะ ปอนเริ่มมีน้ำโหถึงกลับเดินเข้าไปกระชากเลื้อของบิ๊ก

      พอๆเลิกๆ ไม่เอา อย่ามาทะเลากันเพราะเรา กรเดินเข้าไปแยกบิ๊กออกมาจากปอนเพื่อหวังจะให้เรื่องจบแต่อ๊อดก็เข้าไปสร้างสถานการณ์ให้รุนแรงยิ่งขึ้น

      (เพี๊ยะ) กรลมลงด้วยแรงตบอย่างแรง รอยมือของอ๊อดบนใบหน้าของกรแดงกล่ำราวกับลูกตำลึงสุก ทั้งปอนและบิ๊กต่างตกใจในเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งสองรีบนั่งลงดูกรด้วความเป็นห่วง

      มานี่ปอน ไม่ต้องไปสนใจมันไอพวกนี้ต้องโดนซะบ้าง ทำตัวเป็นนางเอกห้ามไม่ให้ผู้ชายทะเลอะกัน คิดว่าเขาแย่งแกกันหละสิ อ๊อดกระซากแขนปอนให้ลุกขึ้นมาห่างๆ ก่อนที่ปอนจะหันมาต่อว่าอ๊อด

      นี่นายทำอะไรของนายอะ ถึงว่าเรากับกรจะไม่ใช่แฟนกันแล้วแต่เราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่นะทำไมต้องไปทำร้ายเขาด้วย

      นี่ตัวเองขึ้นเสียงกับเค้าหรอ ตัวเองเห็นมันดีกว่าเค้าใช่มะหละ ยังรักมันอยู่ใช่ป๊ะ

      ขณะที่อ๊อดและปอนกำลังงอนง้อกัน บิ๊กก็รีบพากรออกไปจากที่นั่น  บิ๊กพากรมานั่งทำแผลที่แคนทีน บิ๊กค่อยๆเอาผ้าซับเลือดที่ไหลซิบๆอยู่ข้างปาก

      ปากแตกยังงี้คงกินน้ำพริกไม่ได้อีกหลายวัน บิ๊กจับแก้วกรเบาแล้วพลิกไปมาเพื่อดูรอยฟกซ้ำ

      เจ็บตัวมันยังไม่เท่าไหรนะ แต่เจ็บใจเนี่ยสิ กรพูดออกมาอย่างแค้น

      แต่ก็ดีไม่ใช่หรอ อย่างน้อยนายก็ยังได้รู้ว่าปอนเขายังเป็นห่วงนายอยู่แม้ไม่ใช่ในฐานะแฟนก็ตาม บิ๊กพูดขึ้นทำให่กรคิดได้ กรเริ่มมีรอยยิ้มขึ้นมาบนใบหน้า

      ใช่.ปอนยังเป็นห่วงเราอยู่ แต่ยังไงก็ในฐานะเพื่อน... ขอบใจนะบิ๊ก

      จะขอบใจเราทำไม เราไม่ใช่ปอนซะหน่อย

      ไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น เราหมายถึงเรื่องที่นายอยู่เคียงข้างเราและให้กำลังใจเรามาเสมอมา   .โอ๊ย!” กรยิ้มมากไปจนทำให้แผลฉีก

      สมหน้า บิ๊กหัวเราะเยอะ

       

      หลังจากวันนั้นกรและบิ๊กก็ย้ายมาอยู่หอด้วยกันทั้งคู่ได้ดูแลซึ่งกันและกันในฐานะเพื่อน ถึงแม้ว่าบิ๊กจะรักกรมากสักเพียงใดแต่บิ๊กก็ไม่สามารเข้าไปแทนที่คนในหัวใจของกรได้ กรยังรักปอนและยังคงหวังใว้เสมอว่าสักวันปอนจะกลับมาหาเขา เช่นเดียวกันกับบิ๊กที่ยังหวังว่าสักวันกจะหันมามองเขาบ้าง  ส่วนในตอนนี้ปอนเองก็เลิกกับอ๊อตแล้วไปคบกับเด็กซิกัม ปอนยังคงค้นหาความรักไปเรื่อยไม่มีหยุด เขาพยายามเปลี่ยนแฟนเพื่อที่จะให้เข้ากับตัวเขาได้ โดยที่ปอนไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเลย ปอนยังคงใช้ความรักเป็นว่าเล่นและไม่สนใจคนที่เคยรักว่าเขาจะเสียใจมากเพียงใด ปอนคิดแต่ว่าเมื่อเขาเบื่อก็เลิก  ความหวังของกรคงเป็นไปได้ยากเพราะปอนเริ่มหางจากกรไปทุกวันๆ จนตอนนี้กรและปอนแทบจะไม่ได้คุยกันทั้งที่เรียนห้องเดียวกัน ความผูกพันเก่าๆเริ่มที่จะห่างเหินไปทุกวินาที  มีแต่ความเย็นชาเท่านั้นที่ปอนแสดงออกมากับกร

       

      วันเวลาล่วงเลยไปจนในที่สุดวันสิ้นปีก็หวนมาถึงอีกครั้ง คราวนี้ทั้งกรและบิ๊กก็ได้ไปเค้าดาวน์กันที่แหลมแท่นโดยทั้งคู่ก็ยังหามุมนั่งที่สงบแต่ไม่ไกลจากผู้คนมากนัก

      5..4..3..2..1..เย้ๆ ทั้งกรและบิ๊กก็เริ่มนับถอยหลังพร้อมๆกันจนเวลาเที่ยงคืนเสียงพลุที่ถูกจุดขึ้นบนท้องฟ้า และเสียงข้อความโทรศัพท์ก็ดังอยู่เป็นระยะๆ

      สวัสดีปีใหม่นะบิ๊ก

      เช่นกันครับ สวัสดีปีใหม่

      อื้ม. ดูดิ่ข้อความเข้าตั้ง 20 ฉบับกรส่งโทรศัพท์ของเขาให้บิ๊กดูพร้อมกลับชะเง้อไปดูโทรศัพท์ของบิ๊กบ้าง

      ฉบับเดียว...ไม่รู้ว่าใครส่งมา บิ๊กพูดเสียวอ่อย

      ของเราเองแหละ ไม่ต้องดูหรอ กรรู้สึกเห็นใจบิ๊กเป็นอย่างมากที่เขาไม่ได้รับข้อความจากใครเลยทั้งๆที่เพื่อนของเขาก็มีมาก

      ไม่เป็นไรหรอก ถึงจะมีแค่ฉบับเดียว แต่เป็นฉบับเดียวของนายที่ตั้งใจส่งให้เรา เราก็ดีใจแล้ว        กรรู้ตัวดีที่บิ๊กพูดออกมาแบบนี้แสดงว่าบิ๊กยังคงคิดกับกรอยู่เหมือนเดิม ทั้งที่ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมากรพยายามบอกกับบิ๊กหลายครั้งว่าเขาคิดกับกรได้แค่เพื่อนเท่านั้น

      นี่ก็ปีนึงแล้วนะ นายยังไม่เปลี่ยนใจอีกหรอ กรถามบิ๊กตรงๆ บิ๊กยิ้มรับพร้อมกับตอบกลับไปเชิงเป็นคำถาม

      แล้วนายหละยังไม่เปลี่ยนใจจากปอนอีกหรอ ถึงตรงนี้กรก็ไม่คิดที่จะถามอะไรบิ๊กอีกแล้วเพราะว่าเขามีคำตอบทั้งของบิ๊กและของเขาเองอยู่ในใจแล้ว

      ตราบใดที่เรายังมีรัก เราก็ย่อมมีหวัง ขอแค่ให้ตื่นขึ้นมาแล้วได้เห็นหน้ากันและกัน แม้วันจะเปลี่ยนเดือนจะหมุนแต่หัวใจยังจะคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงบิ๊กพูดขึ้นมาทำให้กรรู้สึกซาบซึ้งแล้วทั้งคู่ก็สวมกอดซึ่งกันและกัน ท่ามกลางพลุที่จุดสว่างอยู่บนท้องฟ้า

      รุ้งเช้าวันใหม่ กรตื่นขึ้นมาไม่เห็นบิ๊กอยู่ที่เตียงจึงพยายามมองหาทั้งที่ยังสลึมสลือ เขาลุกไปดูกรในห้องน้ำก็ไม่มี ในจังหวะที่เขาหันหลังกลับไป บิ๊กก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขา

      มองหาใครอยู่หรอ บิ๊กร้องถาม

      เปล่า กรเฉไฉไม่บอกความจริง ทั้งที่จริงๆแล้วเขาตั้งใจมาหาบิ๊ก

      อะ ให้ บิ๊กยื่นกล่องของขวัญมาให้กร

      อะไรอะ

      ของขวัญวันปีใหม่ไง บิ๊กบอก

      รู้ เราไม่ได้โง่นะ แต่จะถามว่ามันมีอะไรข้างในอะ

      อยากรู้ก็แกะดูเองดิ่ บิ๊กพยักหน้าให้กรเปิดดูข้างใน กรค่อยๆบรรจงแกะห่อของขวัญอย่าง ทะนุทนอม

      ไม่เห็นมีไรเลย กรโชว์กล่องของขวัญเปล่าๆให้ดู

      ของที่เราจะให้นายอะ มันใส่กล่องไม่ได้ บิ๊กบอกกรออกไง

      แล้วไหนหละ นายจะให้อะไรเรา กรทวงถาม

      ก็อยู่ตรงหน้านายนี่ไง กรมองไม่เห็นอะไรนอกจากบิ๊ก ในตอนนี้เขาได้เข้าใจแล้วว่าบิ๊กต้องการที่จะให้อะไรแก่เขา

      บิ๊กไม่มีอะไรที่จะให้กรหรอกนะ นอกจากหัวใจของบิ๊ก มันเป็นสิ่งเดียวที่มันมีค่ามากที่สุด เงินไม่สามารถซื่อมันได้เหมือนของขวัญชิ้นอื่นๆที่หลายคนให้นายมา ไม่รู้ว่านายจะยอมรับของขวัญชิ้นนี้หรือเปล่า บิ๊กกุมมือของกรไว้แน่น

      บิ๊ก เราบอกนายแล้วว่าเราเลิกรักปอนไม่ได้นายก็น่าจะรู้ เมื่อบิ๊กได้ฟังก็หมดกำลังใจแล้วหันหลังกลับออกมา กรเห็นดังนั้นก็ใจอ่อนเพราะบิ๊กเองก็ทำทุกอย่างเพื่อเขามาโดยตลอด และในระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน มันก็ทำใก้กรได้มีความรู้สึกที่ดีให้กับบิ๊ก

      แต่บางครั้งอะนะคนที่เรารักอาจจะไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับเรา และคนที่ใช่สำหรับเราก็อาจจะไม่ใช่คนที่เรารักมากที่สุดก็ได้ คำพูดของกรทำให้บิ๊กดีใจเป็นที่สุด เขารีบหันกลับมาหากรทันที

      แล้วคนที่ใช่สำหรับนายอะ อยู่ที่ไหนหรอ บิ๊กถามออกไงอย่างตื้นเต้น

      ไม่รู้ดิ่ อยาจจะอยู่แถวนี้ก็ได้ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ว่าคนคนนั้นเขาจะรับได้หรือเปล่าที่เขาไม่ใช่คนที่เรารักมากที่สุด แต่เขาเป็นคนที่เราอยากจะเดินร่วมทางด้วย

      ถ้าเราเป็นคนคนนั้น แค่ของมีคนที่เรารักอยู่ใกล้ๆ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องได้ความรักกลับมาเต็มร้อย เราก็ยอม  สิ้นคำของบิ๊ก ทั้งคู่ก็โอบกอดกันอย่างมีความสุข พร้อมเพลงสวัสดีปีใหม่ที่ดังไปทั่วทุกพื้นที่

       

                                                  

                                                                                                                    สวัสดี...

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×